เข้ม เฟกนิวส์ ช่วง โควิด ‘เฟซบุ๊ก’ ลบทิ้ง 1.7 พันล้านบัญชีปลอม

      นางสาวอลิซ บูดีซัทจีโร ผู้จัดการฝ่ายนโยบายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับข้อมูลเท็จ เฟซบุ๊ก ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางที่ เฟซบุ๊ก ใช้ในการรับมือกับข้อมูลที่ไม่ เป็นความจริงบนแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย 1. Remove คือการลบข้อมูลประเภทที่เป็นการละเมิดมาตรฐานชุมชนของเฟซบุ๊ก หรือกฎระเบียบในการควบคุมเนื้อหาของ เฟซบุ๊ก เช่น การสร้างความเกลียดชัง, การฆ่า ตัวตายหรือการทำร้ายตัวเองหรือข้อมูลที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต รวมถึงข้อมูลที่มาจาก บัญชีปลอม โดยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 เฟซบุ๊กได้ลบบัญชีปลอม แล้วจำนวน 1.7 พันล้านบัญชีทั่วโลก ซึ่ง 99.7% เป็นบัญชีที่ เฟซบุ๊ก ตรวจพบเองด้วย AI ก่อนได้รับการรายงานจากผู้ใช้ 2. Reduce การลดการเข้าถึงของข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงแต่ไม่ถึงกับก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต 3. Inform การให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเนื้อหาที่เป็น ข่าวปลอม ก่อนการแชร์
    รวมถึงมีนโยบายในการลบ ข้อมูลปลอม ที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายได้ อาทิ การอ้างถึงวิธีการรักษาโรค, การป้องกันการแพร่ระบาด, ข้อมูลที่ไม่สนับสนุนการรักษาโรค, สถานที่ที่ให้บริการรักษาโรคหรือเครื่องมืออื่นๆ บริเวณและความรุนแรงของโรคระบาดที่ไม่เป็นความจริง
    นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก ยังมีการรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับเนื้อหาที่ได้ลบออกจากแพลตฟอร์มโดยอ้างอิงจากแนวทางขององค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งหากมีบุคคลทางการเมืองพยายามกระจายข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับ โควิด-19 ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย เฟซบุ๊ก จะลบคอนเทนต์นั้นทันที ซึ่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้มีการแจ้งเตือนไปแล้ว 50 ล้านโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 จากพันธมิตรตรวจสอบ ข่าวปลอม อิสระโดย 95% ของผู้ใช้งานเลือกที่จะไม่เปิดอ่านเนื้อหาต่อ 
    อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 เฟซบุ๊กได้เพิ่มประสิทธิภาพในการจัด การกับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรตรวจสอบข่าวปลอมกว่า 60 ราย ครอบคลุมกว่า 50 ภาษา โดยในช่วงวันที่ 1 มีนาคม-16 เมษายน 2563 เฟซบุ๊ก ได้เพิ่มจำนวนพันธมิตรตรวจสอบ ข่าวปลอม อีก 8 ราย และขยายครอบคลุมในอีก 12 ประเทศ รวมถึงที่ไต้หวันและฮ่องกง

     ด้านนางสาวชนัญญา คุณวัฒนการ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะ เฟซบุ๊ก ประเทศ ไทย กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 เฟซบุ๊ก ได้มีการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วนเพื่อช่วยคนในสังคม ซึ่งจะแบ่งการทำงานออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ 1.ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลที่มีความถูกต้อง 2. จำกัดและลด ข่าวปลอม หรือเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้คน 3. ให้ความร่วมมือและสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย 4. ช่วยเหลือภาคธุรกิจและชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทยโดยผู้ใช้งาน เฟซบุ๊ก กว่า 2 พันล้านคนจะสามารถรับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานสาธารณสุข โดยพบว่าผู้ใช้ประมาณ 350 ล้านคน มีการกดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
    ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก มีแนวทางสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสาธารณสุข เช่น การมอบคูปองโฆษณาฟรีใน 100 ประเทศทั่วโลก, มอบเงินทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กกว่า 30,000 รายใน 30 ประเทศ การตั้งศูนย์ข้อมูลสำหรับธุรกิจช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับความท้าทายในช่วงวิกฤติ โควิด-19 , ศูนย์ข้อมูล โควิด-19 ของ Messenger ช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อกับชุมชน เพราะหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 อย่างรุนแรง ทำให้จำนวนการส่งข้อความถึงกันเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และการโทรด้วยเสียงและวิดีโอเพิ่มขึ้น 2 เท่าบน Messenger และ WhatsApp จากในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโรคระบาด