โควิด-19 ดันยอดผู้ใช้ e-payment พุ่ง

29 พ.ค. 2563 | 06:43 น.

ธนาคารแห่งประเทศไทยเผยการใช้ "e-payment" เพิ่มสูงขึ้นช่วงโควิด ด้านผู้ประกอบการรายใหม่เห็นโอกาสทางธุรกิจแห่ยื่นขอไลเซนส์ต่อเนื่อง

 

น.ส. สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การใช้งานบริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-payment ได้รับความนิยมและมีปริมาณการใช้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะบริการโอนเงินและชำระเงิน 


สำหรับธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ พร้อมเพย์ ปัจจุบันมียอดลงทะเบียนแล้ว 52 ล้านหมายเลข  ธุรกรรมเฉลี่ย 11 ล้านรายการต่อเดือน และในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด- 19 มีจำนวนธุรกรรมสูงสุดถึง 16 ล้านรายการในเดือนเมษายน 2563 และมีร้านค้าที่รับชำระด้วย QR Code กว่า 6 ล้านจุด


จากแนวโน้มการใช้บริการe-payment เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีผู้สนใจประกอบธุรกิจนี้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจการชำระเงินตาม พ.ร.บ. ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2561 จำนวน 118 ราย  ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธปท. มีการอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการการชำระเงินรายใหม่ไปแล้วจำนวน 17 ราย รวม 32 ใบอนุญาต และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 ราย

 

ธปท. ได้กำหนดกระบวนการพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตที่ชัดเจน โดยใช้เวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสารครบถ้วนถูกต้องแล้ว ซึ่งรายละเอียดการขออนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจได้เผยแพร่ผ่านคู่มือประชาชนบนเว็บไซต์ ธปท. https://www.bot.or.th/Thai/PaymentSystems/PSA_Oversight/Application_Manual/Pages/default.aspx  โดยการพิจารณาได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง รูปแบบการประกอบธุรกิจ ความมั่นคงเข้มแข็งของระบบงาน และการคุ้มครองผู้ใช้บริการ รวมทั้งการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง