นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ได้แถลงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19 ) ในประเทศไทยวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 พบ ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 11 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,065 ราย จาก State Q รวม128 ราย และจากศูนย์กักกัน 65 ราย ผู้เสียชีวิต 0 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตคงเดิม 57 ราย รักษาหายเพิ่ม 14 ราย รวมรักษาหายเเล้ว 2,945 ราย และ ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล63 ราย
หากแยกจำนวนผู้ป่วยตามอายุและเพศ พบว่า อัตราผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง 1.2:1 ซึ่งกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือกลุ่มอายุ 20-29 ปี มีจำนวน 790 ราย ผู้ป่วยอายุน้อยสุด 1 เดือน ผู้ป่วยอายุสูงสุด 97 ปี อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยคือ 39 ปี
กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 11 รายที่พบใหม่ จากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine จากประเทศอินเดีย 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 32 ปี นักท่องเที่ยว เดินทางมาถึงวันที่ 22 พ.ค. 63 เข้าพักโรงแรมใน จ.สมุทรปราการ วันที่ 25 พ.ค. 63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการป่วย เข้ารับรักษารพ.แห่งหนึ่งในจ. สมุทรปราการ
จากประเทศกาตาร์ 6 ราย รายที่ 1-5 เพศชาย อาชีพพนักงานนวด รายที่ 6 เพศหญิง เป็นแม่บ้าน เดินทางมาถึงวันที่ 22 พ.ค. 63 เข้าพักโรงแรมในกทม. วันที่ 26 พ.ค. 63 ผลตรวจพบเชื้อ โดย รายที่ 1 อายุ 27 ปี วันที่ 22 พ.ค. 63 ลิ้นรับรสไม่ได้ รายที่ 2 อายุ 31 ปี วันที่ 25 พ.ค. 63 มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น รายที่ 3 อายุ 30 ปี วันที่ 20 พ.ค. 63 มีอาการเจ็บคอ มีเสมหะ รายที่ 4 อายุ 27 ปี ไม่มีอาการป่วย รายที่ 5 อายุ 37 ปี ไม่มีอาการป่วย รายที่ 6 อายุ 52 ปี ไม่มีอาการป่วย
จาก ประเทศคูเวต 4 ราย เป็น เพศชาย ทำงานที่แคมป์ของบริษัทต่างชาติ เดินทางมาถึง วันที่ 24 พ.ค. 63 เข้าพักโรงแรมในกทม. วันที่ 26 พ.ค. 63 ผลตรวจพบเชื้อ รายที่ 1 อายุ 39 ปี วันที่ 26 พ.ค. 63 มีอาการปวดศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น รายที่ 2 อายุ 47 ปี วันที่ 26 พ.ค. 63 มีอาการปวดศีรษะ เข้ารักษารพ.รัฐ ใน กทม. รายที่ 3 อายุ 51 ปี วันที่ 26 พ.ค. 63 มีน้ามูก เข้ารักษารพ.รัฐ ใน กทม. และรายที่ 4 อายุ 44 ปี วันที่ 26 พ.ค. 63 มีไข้ เข้ารักษารพ.รัฐ ใน กทม.
พบว่าการติดเชื้อจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน และเดินทางมาจากต่างประเทศและมักจะเป็นผู้ที่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ มีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (อีโอซี) มีการวิเคราะห์ถึงกรณีพบเชื้อในกลุ่มพนักงานนวดที่เดินทางกลับมาจำนวนมากว่า ยังไม่อยากให้มีการสรุปว่าพนักงานนวดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับที่อยู่ หรือการเดินทางไปชุมชน เรายังไม่รู้ กระบวนการสอบสวนโรคต้องมีมากกว่าซักถามประวัติ ไม่อยากให้รีบเหมารวม
โดยอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพระบุว่า เหตุในต่างประเทศเป็นเรื่องหนึ่ง จึงต้องมีกระบวนการซักถามมากขึ้น และปัจจุบันจะมีความเชื่อมโยงกับการเปิดกิจการ/กิจกรรมที่กำลังจะเปิด อาจทำให้เกิดความกังวลใจ ซึ่งการนวดในไทยมีทั้งเพื่อการรักษาและผ่อนคลาย ซึ่งการนวดเพื่อการรักษาจะมีมาตรฐานกำหนดสูงอยู่แล้ว ทั้งปัจจุบันทางชมรมและสมาคมวิชาชีพได้มีมาตรการต่างๆที่ทำเพิ่มขึ้น ส่วนการนวดผ่อนคลายจะต้องทำร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่ง สธ.ต้องรีบบอกก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีการไปเชื่อมโยงกับกิจการ/กิจกรรมที่กำลังจะเปิดของไทย
ซึ่งถ้าประชาชนคนใดมีความรู้สึกว่าจมูกไม่ได้กลิ่น และไปสถานที่ชุมชนมา รวมถึงบุคคลที่มีอาการคล้ายไข้หวัด หรือประวัติเคยมีไข้ หากมีความสงสัยสามารถไปขอตรวจได้เลย ยิ่งมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ยิ่งต้องไปตรวจ อย่างไรก็ตาม หลายวันตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ ทั้งนี้ สำหรับตัวเลขผู้ป่วยสะสม 3,065 รายของไทยนั้น แบ่งเป็นผู้ที่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ 621 ราย หรือ 20.26% และติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 ราย หรือ 79.74%
สำหรับผู้ป่วยที่แยกตามพื้นที่การรักษา พบว่ากทม.และนนทบุรี มีจำนวน 1,718 ราย ภาคใต้ 737 ราย ภาคกลาง 404 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 111 ราย และภาคเหนือ 95 ราย