เอไอเอส ชู 5G หนุน “หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช”

26 พ.ค. 2563 | 09:39 น.

เอไอเอส ผนึก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำ 5G เสริมประสิทธิภาพ “หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช

  เอไอเอส ชู 5G หนุน “หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช”

  นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอส ได้นำนวัตกรรมเครือข่ายและเทคโนโลยีมาสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลศิริราชมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่เอไอเอสได้เดินหน้าภารกิจ AIS 5G สู้ภัย โควิด-19  เอไอเอส ได้สนับสนุนโรงพยาบาลศิริราชในการส่งมอบนวัตกรรมหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ 5G ROBOT FOR CARE เพื่อเป็นผู้ช่วยแพทย์และพยาบาลในการดูแลผู้ป่วย ช่วยลดงาน ลดเสี่ยงติดเชื้อ พร้อมติดตั้งเครือข่าย 5G เพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีและโซลูชันส์ทางการแพทย์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
     เช่นเดียวกับในวันนี้ที่การรักษาพยาบาลเคลื่อนที่ (Mobility) ก็เป็นการรักษาพยาบาลรูปแบบหนึ่งที่สร้างโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาในระยะฉุกเฉินได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เอไอเอส มุ่งนำศักยภาพ เครือข่ายอัจฉริยะ AIS 5G ร่วมพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยรอบด้าน ด้วยการนำศักยภาพเครือข่าย 5G, 5G CPE อุปกรณ์รับและกระจายสัญญาณ 5G , ซิมการ์ด 5G เข้ามาเสริมประสิทธิภาพ หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) เสริมประสิทธิภาพระบบปรึกษาทางไกลกับแพทย์เฉพาะทางที่อยู่ทางโรงพยาบาล พร้อมกล้องส่งสัญญาณภาพเพื่อให้แพทย์สนทนากับผู้ป่วยขณะอยู่บนรถเพื่อวินิจฉัยการรักษาเบื้องต้น

 

ด้าน ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การผนึกกำลังของมหาวิทยาลัยมหิดล สนับสนุนโดยผู้นำเครือข่าย 5G  เรามุ่งพัฒนาเพื่อสังคมส่วนรวมให้ประชาชนคนไทยได้เข้าถึงการรักษาในระยะฉุกเฉินให้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันทั้งชนิดตีบและแตกอย่างรวดเร็วด้วย หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) เปรียบเสมือนการนำโรงพยาบาลไปสู่ชุมชน เพื่อลดระยะเวลาในการเปิดหลอดเลือดสมองที่อุดตันทำให้อัตราการเสียชีวิตและพิการลดลงได้ โดยจะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) แบบเบ็ดเสร็จในรถ ตั้งแต่เริ่มมีอาการไม่เกิน 4 ชั่วโมง โดยผู้พบผู้ป่วยโทรแจ้ง 1669 เข้าศูนย์เอราวัณ  ทางศูนย์ฯ จะคัดกรอง แล้วแจ้งต่อไปยังหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ในเขตที่ดูแลเพื่อให้เข้าไปรับผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจคัดกรองอาการและนำผู้ป่วยมาที่จุดนัดพบสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ขณะเดียวกันทางศูนย์เอราวัณก็แจ้ง หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) ให้ออกปฏิบัติการรับผู้ป่วย เพื่อการรักษาในรถของ หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) ที่จุดนัดพบตามที่ได้ประสานงานไว้แล้ว ขณะนี้รถรุ่นใหม่หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช 2020 จำนวน 3 คัน อยู่ระหว่างการผลิต กำหนดแล้วเสร็จของรถคันที่ 2 ประมาณเดือนสิงหาคม 2563 และคันที่ 3 และ 4 จะแล้วเสร็จภายในปี 2563

 

ด้าน รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ (Mobile Stroke Unit) ในรูปแบบของรถมาจากความคิดริเริ่มของศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช พัฒนารถต้นแบบคันแรกเสร็จในปี 2561 ซึ่งต่อมาในปี 2562 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้พัฒนาความก้าวหน้าทางสมรรถนะและเทคโนโลยี ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากสองปีที่เปิดบริการแก่ประชาชนสามารถรองรับการรักษาช่วยผู้ป่วย 287 ราย ตอบโจทย์การแพทย์-ดิจิทัลเฮลท์แคร์และเฮลท์เทค  สำหรับ ปี 2563 นี้ จะเป็นรถรุ่นใหม่ หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช 2020 จำนวน 3 คัน เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร 5G ผสานกับการออกแบบตัวรถและระบบ Mobile Stroke Unit จะช่วยเรื่องการติดต่อสื่อสารแบบสองทาง การส่งภาพ CT Scan สมองและสัญญาณชีพของผู้ป่วย ซึ่งเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเสมือนกับผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดสมองล ดังนั้น การมีเทคโนโลยี 5G จะเพิ่มโอกาสให้กับผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ขั้นสูงของประชาชนคนไทย