กรมวิชาการเกษตร ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทราบทั่วประเทศแล้ว ทั้งป้ายโฆษณารถเคลื่อนที่ และการแจ้งผ่านผู้นำชุมชนให้แจ้งเกษตรกรว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ห้ามครองครองวัตถุอันตราย 2 ชนิด ได้แก่ พาราคาวอต และ คลอร์ไพริฟอส ถ้าใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 10 ปี ปรับสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โทษรุนแรงมาก เกษตรกรไม่ใช่ฆาตรกรหรือ โจรผู้ราย แล้วที่ซื้อสารเคมีไว้ก็เพื่อที่จะใช้ในฤดูกาลนี้จะต้องมาใช้แบบหลบๆ ซ่อนๆ เป็นแหล่งหากินของเจ้าหน้าที่ ทั้งยัดเยียด แล้วมารีดไถเงิน ซึ่งความจริงการออกกฎหมายต้อง อะลุ้มอล่วยกัน ตั้งตัวไม่ทัน สุดท้ายจะกลายเป็นคดีซ้ำรอยตายายเก็บเห็ด
ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งหาตัวยาทดแทนในราคาที่ใกล้เคียงกันกับ 2 ตัวที่จะโดนแบนหลังวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ส่วนชีวภัณฑ์ กรมวิชาการเกษตรจะต้องเร่งรับรองมาตรฐานเพื่อที่จะรับรองให้ได้ ผมเชื่อว่าต้องมีชีวภัณฑ์จริงๆ ที่ไม่ผสมพาราควอต แต่กรมอย่าเกียร์ว่าง หรือตั้งการ์ดมากเกินไป เกษตรกรที่มีชีวภัณฑ์จะได้มีโอกาสได้ขึ้นทะเบียนซื้อขายอย่างถูกกฎหมาย