หุ้น"การบินไทย" ดิ่ง 10% รับ Cash Balance

25 พ.ค. 2563 | 03:22 น.

ราคาหุ้นการบินไทย "THAI" เปิดลดลง 10% รับซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance วันแรก หลังตลท.ประกาศให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม - 3 กรกฎาคม 2563 รวมถึงคลังแจ้งลดสัดส่วนถือหุ้น และหลุดพ้นจากรัฐวิสาหกิจ

หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกํากับการซื้อขาย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 โดยให้หุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ใช้บัญชี Cash Balance ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม - 3 กรกฎาคม 2563 นั้น ส่งผลให้ราคาหุ้น THAI เปิดซื้อขายที่ 4.38 บาท ลดลง 0.52 บาท หรือ -10.61% ซึ่งราคาหุ้นได้ลดลงต่ำสุด 4.22 บาท ยังไม่ถึงราคา Floor ที่ 4.18 บาท และ ณ เวลา 10.16 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.36 บาท ลดลง 0.54 บาท หรือ -11.02% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 36.29 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ตลท.ปรับเกณฑ์การกำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ได้ไม่เกิน 15% จากเดิม 30% มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 และไม่เกิน 30 มิถุนายน 2563 นั้น ราคาหุ้น THAI(การบินไทย) ได้ปรับขึ้นลงชน Ceiling และติด Floor ทั้งหมด 10 ครั้ง เป็นการชน Ceiling 8 ครั้ง และติด Floor 2 ครั้ง

ขณะเดียวกัน THAI แจ้งต่อตลท.ว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นจำนวน 1,113,931,01 หุ้น หรือ 51.03% ว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 กระทรวงการคลังได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงต่ำกว่า 50% โดยจำหน่ายหุ้น 3.17% ให้แก่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทและถือหุ้นคิดเป็น 47.86% และภายหลังการลดสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าว บริษัทจะหลุดพ้นจากสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกับทางตลท.ล่าสุด พบว่าในปีนี้ THAI คงจะยังไม่ถูกให้ขึ้นเครื่องหมาย SP แต่อย่างใด โดยหากจะเกิดขึ้นเร็วสุด ก็อาจจะเป็นช่วงต้นปีหน้าที่จะมีการรายงานงบตรวจสอบ (งบปี) ออกมา ซึ่งถ้าหากออกมาแล้วส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ จะเข้าเกณฑ์การพิจารณาเหตุเพิกถอนทันที นอกจากนี้ ในช่วงถัดไป หากศาลตอบรับคำร้องการขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท จะทำให้ THAI เข้าเกณฑ์การถูกขึ้นเครื่องหมาย C จากทางตลท.โดยทันที ทั้งนี้ ประเมินว่าจริงๆแล้ว THAI มีโอกาสที่จะถูกให้ขึ้นเครื่องหมาย C ตั้งแต่รอบรายงานงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2563 นี้แล้วด้วยซ้ำ หากผลออกมาส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว แต่เนื่องจาก THAI ขอยื่นเรื่องผ่อนผันการส่งงบ จึงทำให้ยังไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว

สำหรับข้อมูลจากตลท.ระบุว่า การขึ้นเครื่องหมายบนหลักทรัพย์ เป็นอีกหนึ่งมาตรการในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนและคุ้มครองผู้ลงทุน โดยการขึ้นเครื่องหมายแต่ละประเภทนั้นมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น เครื่องหมาย “C” (Caution) ใช้เพื่อเตือนผู้ลงทุนให้เพิ่มความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ โดยเมื่อศาลรับพิจารณาคำร้องฟื้นฟูกิจการ หรืองบการเงินมีส่วนของทุนต่ำกว่า 50% ของทุนเรียกชำระแล้ว กรณีใดกรณีหนึ่งหรือทั้งสองกรณี ตลท.จะขึ้นเครื่องหมาย “C” โดยผู้ลงทุนยังคงซื้อขายได้ด้วยบัญชี cash balance และบริษัทเองก็มีหน้าที่รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อผู้ลงทุนทุก ๆ ไตรมาส ส่วนการส่งงบการเงินจะต้องส่งตามกำหนดเวลาปกติเหมือนบริษัทจดทะเบียนทั่วไป
 
ส่วนเครื่องหมาย “SP” จะเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุต่าง ๆ อาทิ บริษัทไม่ส่งงบการเงินตามกำหนดเวลา โดยจะขึ้นเครื่องหมาย “NC” ควบคู่ไปด้วยหากบริษัทเข้าสู่เหตุเพิกถอนจากการที่ส่วนของทุนมีค่าติดลบ ซึ่งจะพิจารณาจากงบการเงินงวดปีเท่านั้น ไม่ได้พิจารณาจากงบการเงินงวดไตรมาส ซึ่งเครื่องหมาย “SP” ดังกล่าวจะมีผลทำให้หุ้นของบริษัทถูกพักการซื้อขาย และจะกลับมาซื้อขายใหม่ก็ต่อเมื่อบริษัทแก้เหตุเพิกถอนตามเกณฑ์และระยะเวลาที่ตลท.กำหนด