แม้รัฐบาลผ่อนคลายให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดกลับภูมิลำเนามากขึ้น แต่เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 เพิ่ม กรมการขนส่งทางบก ยังคงความเข็มงวด มาตราการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในระบบขนส่งสาธารณะทั้งบนรถและภายในสถานีผู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัย และรักษาความสะอาด ตรวจวัดอุณภูมิอย่างเคร่งครัด
นาย
เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ) ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินมาตรการเข้มงวดป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระบบขนส่งสาธารณะอย่าง
กรมการขนส่งทางบกจึงกำชับไปยังผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท รวมถึงผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด
โดย สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เช่น สมุทรสาคร กาญจนบุรี อุทัยธานี มุกดาหาร สุรินทร์ อุบลราชธานี นครสวรรค์ ศรีสะเกษ นครพนม ชัยภูมิ อุตรดิตถ์ เลย เชียงราย เชียงใหม่ นครปฐม ฉะเชิงเทรา มหาสารคาม บุรีรัมย์ จันทบุรี สมุทรปราการ แพร่ อำนาจเจริญ เพชรบูรณ์ ระนอง ขอนแก่น เพชรบุรี ระยอง และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่รับผิดชอบ กำชับมาตรการ Social distancing เว้นระยะนั่ง หรือยืนห่างกัน อย่างน้อย 1 เมตร ทั้งภายในรถโดยสาร และที่นั่งคอยภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร ตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารไม่ให้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ควบคุมการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด และจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ ผู้โดยสารเดินทางข้ามจังหวัด ต้องลงทะเบียนการเดินทางในระบบบันทึกข้อมูลผู้โดยสาร แบบ ต.8 คค ที่ web.dlt.go.th/t8/ หรือกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพตามแบบ ต.8-คค ที่ระบุจุดเดินทางที่ออกและจุดหมายปลายทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ
ทั้งนี้ หากพบรถโดยสารสาธารณะไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้โดยสารสามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1584 ในส่วนของการให้บริการประชาชน ที่
สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ ซึ่งได้มีการประกาศงดการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถแล้วจนกว่าจะมีประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือประกาศเป็นอย่างอื่นหลังจากนี้ แต่ยังคงให้บริการด้านทะเบียนและภาษีตามปกติ จึงได้กำชับให้มีมาตรการป้องกันทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมแนะนำให้ประชาชนให้บริการออนไลน์ของกรมการขนส่งทางบกเพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น บริการชำระภาษีรถประจำปี
ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ https://eservice.dlt.go.th หรือ การต่ออายุใบอนุญาตขับรถทุกชนิดที่ต้องมีการอบรม กรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้อบรมผ่านระบบ e-Learning ที่ www.dlt-elearning.com เพื่อลดขั้นตอนการอบรมที่สำนักงานขนส่ง เมื่อมีประกาศเปิดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ หลังจากนี้