ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (21 พ.ค.) ว่า สหรัฐจะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวกับแผนการของจีนที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง และความตึงเครียดดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่าง 2 ประเทศ
แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 3.3%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.2% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.4%
นายหวัง เฉิน รองประธานคณะกรรมาธิการประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ได้เสนอกฎหมายใหม่ในวันศุกร์ (22 พ.ค.) ที่ระบุให้ฮ่องกงต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโดยเร็วภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับย่อซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของฮ่องกง
นอกจากนี้ การที่จีนระงับการกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำปีนี้ ได้ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ตลาดเผชิญแรงกดดันอยู่แล้ว หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาให้ผ่านร่างกฎหมาย "Holding Foreign Companies Accountable Act" ซึ่งอาจทำให้บริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐถูกเพิกถอนออกจากตลาด