อัยการสูงสุดเตือน “ฟอร์ด”ท้าทายกฎหมาย  ปล่อยทรัมป์เยี่ยมโรงงานไม่ใส่หน้ากาก

การเดินทางเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ “ฟอร์ด” ในมลรัฐมิชิแกน ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเร็ว ๆนี้ กำลังสร้างปัญหาทางกฎหมายให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ โดยฟอร์ดอาจถูกฟ้องว่ากระทำการละเมิดกฎหมายของรัฐโดยการปล่อยให้ทรัมป์เข้าเยี่ยมชมโรงงานซึ่งเป็น “พื้นที่ปิด” โดยไม่ใส่หน้ากากป้องกันโควิด-19

นางดานา เนสเซล อัยการสูงสุดมลรัฐมิชิแกน เปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ The Situation Room ของสถานีข่าวซีเอ็นเอ็นวานนี้ (21 พ.ค.) ว่า เธอจะต้องพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทฟอร์ดอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องที่ทางบริษัทปล่อยให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ต่าง ๆ ของโรงงานโดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายของรัฐมิชิแกนที่บังคับใช้ตามคำสั่งพิเศษของนายเกร็ทเช่น วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ปิด ยกตัวอย่างเช่น โรงงานผลิต ต้องใส่หน้ากากปกปิดบริเวณใบหน้าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค ยกเว้นแต่ว่าสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนายให้สวมหน้ากาก

ดังนั้น การที่บริษัท ฟอร์ด ยอมให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตแห่งหนึ่งในรัฐมิชิแกนเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยทรัมป์ปฏิเสธที่จะสวมหน้ากากขณะเข้าเยี่ยมชมในโรงงาน จึงอาจถือเป็นการละเมิดกฎหมายของรัฐ โดยดานาซึ่งเป็นอัยการสูงสุดของรัฐและเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ระบุว่าเธอจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย “เราจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัทหรือโรงงานใดก็ตาม ที่อนุญาตให้เขา (ทรัมป์) เข้าไปในพื้นที่โดยไม่ใส่หน้ากาก และทำให้คนงานต้องสุ่มเสี่ยงกับอันตราย(จากเชื้อโรค)”

“พวกเขารู้ดีว่าเนื้อหาของกฎหมายคืออะไร และถ้าหากว่าพวกเขายังคงปล่อยให้ใครก็ตาม รวมทั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ฝ่าฝืนกฎหมายนี้ นั่นก็จะส่งผลให้คนงานในโรงงานต้องเสี่ยงกับอันตรายอย่างรุนแรงเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขา” อัยการสูงสุดของรัฐมิชิแกนกล่าว

ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนยังออกคำสั่งให้บรรดาโรงงานในพื้นที่ของมลรัฐระงับการทัวร์เยี่ยมชมโรงงานเป็นการชั่วคราว เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการล็อกดาวน์ธุรกิจเพื่อควบคุมโรคระบาด แต่กรณีการเยี่ยมชมของประธานาธิบดีนั้นได้รับการยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษ

สื่อท้องถิ่นระบุว่า ทางโรงงานของฟอร์ดได้แจ้งมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในการเยี่ยมชมโรงงานไปยังทำเนียบขาวตั้งแต่วันอังคาร (19 พ.ค.) ซึ่งรวมถึงข้อบังคับที่ให้ทุกคนต้องใส่หน้ากากในทุกพื้นที่ของโรงงานตลอดเวลา แต่ทางบริษัทก็ยอมรับว่า ทำเนียบขาวมีมาตรการและแนวทางด้านสุขอนามัยของตัวเอง และการตัดสินใจต่าง ๆในเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเนียบขาว

ในส่วนของประธานาธิบดีทรัมป์นั้น เขาปฏิเสธที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยหรืออุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคตลอดเวลาส่วนใหญ่ที่อยู่ในโรงงานและตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม มีภาพข่าวที่แสดงให้เห็นว่า เขาสวมหน้ากากที่มีตราสัญลักษณ์ประธานาธิบดีอยู่ช่วงหนึ่งขณะอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวภายในโรงงานระหว่างการชมประวัติการผลิตรถฟอร์ด GT แต่ทรัมป์สวมอยู่ได้เพียงครู่หนึ่งก็ถอดออกและไม่ได้สวมหน้ากากอีกเลยตลอดการเยี่ยมชมโรงงาน นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังกล่าวว่า เขาจะไม่ใส่หน้ากากต่อหน้าสื่อเพียงเพื่อให้ “พวกสื่อดีใจว่าผมใส่หน้ากาก”  

“เขาเหมือนเด็กเจ้าอารมณ์ที่ไม่ยอมทำอะไรตามกฎเกณฑ์ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ” อัยการสูงสุดรัฐมิชิแกนกล่าว และยังระบุว่า ในวันมาเยี่ยมชมโรงงานนั้น ทรัมป์อยู่ในพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19 แล้วมากกว่า 100 คน แต่สิ่งที่ทรัมป์ทำ (การไม่ใส่หน้ากาก) คือการส่งสาส์นที่เลวร้ายที่สุดไปยังประชาชนที่ต้องรับข้อมูลผิด ๆ ไป ดังนั้น เธอกำลังพิจารณาว่าอาจจะดำเนินคดีเอาผิดกับบริษัท ฟอร์ด ที่ปล่อยให้ผู้เข้าเยี่ยมชมโรงงานไม่ใส่หน้ากาก “สิ่งสุดท้ายที่เราอยากจะเห็นคือ โรงงานนี้ถูกปิดเพราะมีใครบางคนติดเชื้อโรคจากประธานาธิบดี” ดานากล่าว

แต่สำหรับทรัมป์ เขามีเหตุผลเช่นกัน “ผมไม่ต้องใส่หน้ากาก เพราะผมรับการตรวจหาเชื้อแล้ว และเมื่อเช้าก่อนมาเยี่ยมโรงงานก็ตรวจอีกทีแล้ว ผมไม่มีเชื้อไวรัส และหน้ากากน่ะมันมีไว้สำหรับกันคนที่ป่วยไม่ให้แพร่กระจายเชื้อไปติดคนอื่น”

แหล่งข้อมูลอ้างอิง 

Michigan attorney general warns Ford over letting Trump go maskless

Donald Trump is FINALLY pictured wearing a mask during private tour of Michigan Ford plant