นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ได้แถลงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19 ) ทั่วโลก 211ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ ประจำวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 (เวลา 10.00 น.) มีผู้ติดเชื้อจำนวน 5,085,504 ราย เพิ่มขึ้น 99,172 ราย เสียชีวิต 329,731 ราย เพิ่มขึ้น 4,821 ราย อาการหนัก 45,802 ราย เพิ่มขึ้น 377 ราย รักษาหายป่วย 2,021,072 ราย เพิ่มขึ้น 63,170 ราย
ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
1. สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ 1,591,991 ราย เพิ่มขึ้น 21,408ราย เสียชีวิต 94,994 เพิ่มขึ้น 1,461 ราย
2. รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 308,705 ราย เพิ่มขึ้น 8,764 ราย เสียชีวิต 2,972 รายเพิ่มขึ้น 135ราย
3. บราซิล มีผู้ติดเชื้อ 293,357ราย เพิ่มขึ้น 21,472 ราย เสียชีวิต 18,894 ราย เพิ่มขึ้น 911 ราย
4.สเปน มีผู้ติดเชื้อ279,524 รายเพิ่มขึ้น 721 ราย เสียชีวิต 27,888 ราย เพิ่มขึ้น110ราย
5.อังกฤษ มีผู้ติดเชื้อ 248,293 ราย ลดลง 525 ราย เสียชีวิต 35,704 ราย เพิ่มขึ้น 363ราย
6. อิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 227,364 ราย เพิ่มขึ้น665 ราย เสียชีวิต 32,330 เพิ่มขึ้น 161 ราย
7. ฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อ 181,575 ราย เพิ่มขึ้น 766 ราย เสียชีวิต 28,132 รายเพิ่มขึ้น 110 ราย
8.เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อ 178,531 ราย เพิ่มขึ้น 704 ราย เสียชีวิต 8,270 ราย เพิ่มขึ้น 77 ราย
9.ตุรกี มีผู้ติดเชื้อ 152,587 ราย เพิ่มขึ้น 972 ราย เสียชีวิต 4,222 ราย เพิ่มขึ้น 23 ราย
10.อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อ 126,949 ราย เพิ่มขึ้น 2,346 ราย เสียชีวิต 7,183 ราย เพิ่มขึ้น 64 ราย
กลุ่มประเทศอาเซียน+เอเชีย
11. อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ 112,028 ราย เพิ่มขึ้น 5,553 ราย เสียชีวิต 3,434 ราย เพิ่มขึ้น132 ราย
13. จีน มีผู้ติดเชื้อ 82,967 ราย เพิ่มขึ้น 2 ราย เสียชีวิต 4,634 ราย
19. ปากีสถาน มีผู้ติดเชื้อ 45,898 ราย เพิ่มขึ้น 1,932 ราย เสียชีวิต 985ราย เพิ่มขึ้น 46 ราย
27. สิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อ 29,364 ราย เพิ่มขึ้น 570 ราย เสียชีวิต22ราย เพิ่มขึ้น - ราย
28. บังคลาเทศ มีผู้ติดเชื้อ 26,738 ราย เพิ่มขึ้น1,617 ราย เสียชีวิต 386 ราย เพิ่มขึ้น 16ราย
33.อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อ 19,189ราย เพิ่มขึ้น 693 ราย เสียชีวิต 1,242 ราย เพิ่มขึ้น21 ราย
39. ญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อ 16,367 ราย เพิ่มขึ้น- ราย เสียชีวิต 768 ราย เพิ่มขึ้น - ราย
43.ฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อ 13,221 ราย เพิ่มขึ้น 279 ราย เสียชีวิต 842 ราย เพิ่มขึ้น5 ราย
44. เกาหลีใต้ มีผู้ติดเชื้อ 11,122 ราย เพิ่มขึ้น 12 ราย เสียชีวิต 264 ราย เพิ่มขึ้น 1 ราย
56. มาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อ 7,009 ราย เพิ่มขึ้น 31 ราย เสียชีวิต 114 ราย เพิ่มขึ้น -ราย
70. ไทย มีผู้ติดเชื้อ 3,037 ราย เพิ่มขึ้น 3 ราย เสียชีวิต 56 ราย เพิ่มขึ้น - ราย
ทั้งนี้ยอดติดเชื้อของแต่ละประเทศยังคงสูงขึ้นที่น่าสนใจคือประเทศบราซิล จำนวนผู้ติดเชื้อวันเดียวเพิ่มขึ้นสูงแซงสหรัฐอเมริกา คือ สูงถึง 21,472 ราย ส่วนสหรัฐอยู่ที่ 21,408 ราย แต่สหรัฐยังคงรั้งอันดับหนึ่งทั้งยอดติดเชื้อและเสียชีวิต ด้านรัสเซียยอดติดเชื้อสูงมากเช่นกัน
ด้านประเทศอินเดีย ติดเชื้อสูงมากเป็นอันดับหนึ่งของเอเชียเช่นเดียวกัน ขณะที่รัฐบาลจะยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่อง ครอบคลุมไปจนถึง 31 พ.ค.63 โดยมีบางรัฐเริ่มอนุญาตให้ตลาด ธุรกิจห้างร้าน ร้านทำผม รวมทั้งการขนส่งบางประเภทเปิดให้บริการได้ ขณะที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงภาพยนตร์ และห้างสรรพสินค้ายังคงปิดบริการ และอนุญาตให้แท็กซี่ในกรุงนิวเดลี สามารถวิ่งให้บริการประชาชนได้ แต่จะสามารถรับ ผู้โดยสารได้ครั้งละไม่เกิน 2 คนเท่านั้น
ประเทศสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยจอร์เจีย เผยผลวิจัยพบว่า ไวรัสโคโรนา 2019 สามารถอาศัยอยู่บนพื้นผิวต่างๆใน 2-3 วัน แต่ ไวรัสจะตายเร็วขึ้น ถ้าโดนความร้อนสูงขึ้น และมีชีวิตนานขึ้นถ้าอุณหภูมิต่าลง ดังนั้นอุณหภูมิในรถยนต์ที่สูงขึ้นจากการจอด รถตากแดดสามารถฆ่าไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ถ้าความร้อนสัก 54 องศาเซลเซียส ในเวลา 20 นาที เชื้อไวรัส 99.99% จะตาย และจะใช้เวลาสั้นลงเหลือ 5 นาที แต่ยังสนับสนุนให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัย เมื่อเข้าไปตามชุมชน
ขณะที่สเปนออกกฎหมายบังคับประชาชนทุกคนใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่นอกบ้าน ทั้งที่เป็นพื้นที่เปิด และในสถานที่ปิดที่เป็นพื้นที่สาธารณะ เมื่อไม่สามารถเว้นระยะ ห่างอย่างน้อย 2 เมตร โดยกฎหมายนี้ยกเว้นเด็กที่อายุต่าว่า 6 ปีและผู้มีปัญหาสุขภาพที่ไม่สามารถใส่หน้ากากได้