นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังไม่จำเป็นต้องรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนเหมือนที่ผ่านมา เพราะในภาวะวิกฤติจากการระบาดของ Covid-19 ต้องยึดตัวเลขการประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ จากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เป็นหลัก
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 จะชะลอตัวกว่าไตรมาสที่ 1 เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ทั้งไตรมาส แต่เชื่อว่า ในไตรมาสที่ 3 – 4 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นได้ เพราะรัฐบาลมีแนวทางในการช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และผู้ประกอบการให้เริ่มสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ดังนั้นเมื่อภาคธุรกิจไม่หยุดชะงัก เศรษฐกิจก็จะกลับมาหมุนเวียนได้ตามปกติ
“ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเศรษฐกิจจะเป็นรูปตัว V หรือ ตัว U แต่จากการประคองเศรษฐกิจด้วยการออกมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ทำให้เชื่อว่าหลังจากนี้ภาคธุรกิจจะกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อีกครั้ง สถานการณ์ต่างๆ ก็จะดีขึ้น”นายลวรณกล่าว
ส่วนกรณีที่มีภาคเอกชนเรียกร้องให้กระทรวงการคลังออกมาตรการ ชิมช้อปใช้ และ ช้อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายลวรณ ยืนยัน กระทรวงการคลังพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอน แต่จะต้องออกในช่วงเวลาที่เหมาะสม คือหลังจากสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลายก่อน โดยดูจากการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้างร้านต่างๆ กลับมาดำเนินกิจการและประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว
ส่วนจะเป็นมาตรการใด ต้องให้ถึงช่วงเวลานั้นก่อนถึงจะพิจารณาได้ แต่หากจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา กระทรวงการคลังมีงบประมาณเพียงพอแน่นอน โดยจะใช้ของเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของงบเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท ในการดำเนินการ