รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมด่วนร่วมกับนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม คณะกรรมการ(บอร์ด) และผู้บริหารบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) โดยในที่ประชุมได้แจ้งให้ผู้บริหารการบินไทยรับทราบมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่เห็นชอบให้บริษัทฯ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2543 และให้ลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังในบริษัทฯ ให้เหลือต่ำกว่า 50% นอกจากนี้ยังได้หารือถึงขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ หลังจากนี้ว่าบริษัทฯ ต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ในที่ประชุมได้หารือเรื่องการพิจารณาคัดเลือกผู้จัดทำแผนฟื้นฟู ซึ่งนายศักดิ์สยาม มอบให้ทางบริษัทฯ เป็นผู้คัดเลือก และค้นหาผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ รวมทั้งมีความเป็นมืออาชีพ ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ซื่อสัตย์ สุจริต และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เบื้องต้นคาดว่าในวันที่ 25 พ.ค.63 กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทฯ จะสามารถนำรายชื่อ ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 30 คน เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาคัดเลือก ก่อนจะเสนอศาลล้มละลายแต่งตั้งต่อไป
อ่านข่าว ชี้ชะตา”การบินไทย” ตามล่า 23 ปัจจัยเสี่ยง
อ่านข่าว ขายหุ้น “การบินไทย” พ้นรัฐวิสาหกิจ ยึด "เจแปนแอร์ไลน์" ฟื้นฟู
สำหรับเรื่องการลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังในบริษัทฯ นั้น ไม่ได้มีการหารือในที่ประชุม เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำลังพิจารณาแนวทางการขายหุ้นการบินไทยอยู่ เบื้องต้นน่าจะลดสัดส่วนเหลืออยู่ที่ประมาณ 47% และขายหุ้นให้กับกองทุนวายุภักดิ์ประมาณ 3% ซึ่งเรื่องนี้ต้องทำคู่ขนานกันไปกับในส่วนของกระทรวงคมนาคม และเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการเช่นกัน.
นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้สหภาพฯ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากกระทรวงคมนาคม เพื่อนัดหารือในรายละเอียดการดูแลพนักงานการบินไทยที่มีอยู่ราว 2 หมื่นคน แต่อย่างไรก็ดี สหภาพฯ ได้เตรียมความพร้อมในด้านข้อมูลจากมุมมองของฝ่ายปฏิบัติการ เพื่อชี้แจงให้กับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
“เราก็พร้อมที่จะไปให้ข้อมูลข้อเท็จจริงในส่วนของสหภาพฯ บ้าง เรื่องการลดค่าใช้จ่ายที่ควรจะเป็น ส่วนเรื่องมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้กระทรวงการคลังปรับลดสัดส่วนถือหุ้นการบินไทย เพื่อให้การบินไทยพ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ เราก็ยินยอมตามนั้น เพราะถือว่าเป็นไปตามกฎหมายที่ต้องยอมรับมติ ครม.”
ขณะที่ท่าทีของสหภาพฯ ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลังนั้น ยอมรับว่าในขณะนั้นสหภาพฯ คัดค้านเนื่องจากเกรงว่าหากมีการปรับลดสัดส่วนถือหุ้นแล้ว จะเปิดโอกาสให้เอกชนกลุ่มอื่นเข้ามาถือหุ้นแทน แต่เมื่อทราบข้อมูลว่าจะมีการปรับเปลี่ยนการถือหุ้นไปยังกองทุน อีกทั้งแนวทางพ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ ยังจะทำให้โครงสร้างบริหารที่มีคณะกรรมการ (บอร์ด) และอาจปรับเปลี่ยนฝ่ายบริหารบางส่วน สหภาพฯ จึงเล็งเห็นว่าเป็นประโยชน์
ส่วนการปรับลดสัดส่วนหุ้น ที่ทำให้การบินไทยพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ เพื่อเริ่มปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริหารในหลายส่วนนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่อาจทำให้เจ้าหนี้เชื่อมั่น และหากพนักงาน หรือสหภาพฯ ยังคงคัดค้านแผนฟื้นฟูดังกล่าว ก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่น ซึ่งจะส่งผลให้การบินไทยอาจถูกเจ้าหนี้ฟ้องล้มละลาย
อย่างไรก็ตามแผนฟื้นฟูการบินไทย ที่อาจถูกลดโครงสร้างองค์กร ปรับลดจำนวนเครื่องบินประมาณ 50 ลำ และอาจทำให้พนักงาน 5,000 – 10,000 คนถูกเลิกจ้าง ในฐานะพนักงานมองว่าหากการบินไทยพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ซึ่งอาจต้องปรับลดเบี้ยเลี้ยง ค่าล่วงเวลา และสวัสดิการอื่นๆ ก็อาจเป็นเหตุให้พนักงานต้องเริ่มปรับตัวลาออกเอง