น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ปฏิเสธกระแสข่าวการหารือร่วมกับ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและเลขาธิการพรรค และ นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอปอเรชั่น ที่โรงแรมหรรษา ถ.ราชดำริ เพื่อเตรียมตั้งพรรคใหม่ชื่อ พรรคสร้างไทย
น.ส.วทันยา กล่าวว่า ส่วนตัวแทบจะไม่มีโอกาสเดินทางไปที่โรงแรมหรรษา และในการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคแต่ละครั้ง ก็ไม่เคยมีประเด็นเกี่ยวกับการตั้งพรรคใหม่ ทั้งนี้หากมีการชักชวนให้ไปตั้งพรรคใหม่นั้น ส่วนตัวมองว่าในสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์การเมือง หรือสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ที่จะมีกระบวนการทางความคิดเหล่านี้
โดยเฉพาะตนเองช่วงที่ผ่านมา แม้จะเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ก็ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะในเขตชุมชนแออัดใน กทม.อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่เราเห็นคือความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้น ความสนใจของเราจึงมุ่งโฟกัสไปที่การแก้ปัญหาให้กับประชาชน มากกว่าจะไปให้ความสำคัญกับประเด็นในทำนองเดียวกับกระแสข่าวที่ออกมา
สำหรับข่าวที่ปรากฎออกมานั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะทราบดีว่าในช่วงที่ผ่านมาเรื่องข่าวของพรรคพลังประชารัฐมักจะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย เพราะในแง่ของการเมืองคนให้ความสนใจ แต่สิ่งสำคัญ ณ จุดนี้ ถ้าคนที่เป็นสมาชิกพรรค เป็น ส.ส. โดยเฉพาะคนที่ทำงานในฝ่ายบริหารอย่างรัฐบาล จะรู้ว่าวันนี้เรามุ่งในการทำงาน เพราะปัญหาที่รุมเร้าในปัจจุบันมากพออยู่แล้ว
โดยเฉพาะวันนี้ประเทศกำลังเข้าสู่ความท้าทาย ในเรื่องการฟื้นฟูวิกฤติจากโควิด-19 เพราะฉะนั้น เราจึงตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองมากกว่าที่จะนั่งคิดถึงเรื่องในทำนองนี้ และที่ผ่านมาตนเองมาจากการเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมือง จึงทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้คิดเรื่องซับซ้อน มุ่งเน้นผลงานมาโดยตลอด จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้การทุ่มเทเวลาของเพื่อน ส.ส.ทุกคน เพื่อรับรู้รับฟังปัญหาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนในทุกหย่อมหญ้า เพื่อให้การใช้เงินจากพ.ร.ก. 3 ฉบับ การกู้เงินครั้งสำคัญจำนวน 1 ล้านล้านบาท ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ อย่างได้ผลและตรงกับเป้าหมายมากที่สุด เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม
“ในเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์ ความท้าทายของปัญหาเศรษฐกิจและสภาพสังคมได้เปลี่ยนแปลงทุกชีวิตอย่างกระทันหัน เป็นสิ่งที่เดียร์ได้รับรู้รับทราบจากการลงพื้นที่ ไปสัมผัสชีวิตของประชาชน ชีวิตวิถีใหม่ เกิดขึ้นทุกวัน กับทุกชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องผเชิญ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกชีวิตมีผลกระทบทั้งสิ้น การทำงานทางการเมืองก็เฉกเช่นกัน จะจมหรือวกวนอยู่กับปัญหาเดิมๆ คงไม่เหมาะกับปัญหาของโลกในช่วงเวลานี้ สิ่งเหล่านี้จะต้องบรรเทาเบาบางได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีถ้าจะให้เลือก ขอเลือกเดินหน้าทำงาน แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด”
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงกรณีปรากฎชื่อของ นายวัฒน์ชัย ร่วมพูดคุยในครั้งนี้ด้วยว่า ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีการพูดคุยกับนายวัฒน์ชัย เป็นการส่วนตัว รู้จักชื่อเสียงในแง่ของนักธุรกิจตามสื่อต่างๆ เพียงเท่านั้น
ทั้งนี้ หากนายสมคิด ชวนไปอยู่ด้วยจะไปหรือไม่นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่านายสมคิด จะตั้งพรรคจริงหรือไม่ และโดยห้วงสถานการณ์ในเวลานี้ยังไม่มีเหตุผลที่จะไปพูดถึงตรงนั้น วันนี้พรรคพลังประชารัฐยังมีความเข้มแข็ง มีบุคลากรที่มีความสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งนี่ถือเป็นภาระกิจหลัก และตนเองก็ยังเชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ