หลังจากซัมซุงถูกโค่นตำแหน่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ในตลาดเกิดใหม่สำคัญๆ อย่างจีน อินเดีย และอินโดนีเซียในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เวลานี้ซัมซุงงัดกลยุทธ์ลดราคาอุปกรณ์มาแข่งขันเพื่อดึงลูกค้าในตลาดเหล่านี้กลับคืน
เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า การตัดสินใจวางกลยุทธ์ราคาขายสมาร์ทโฟนระดับล่างให้ต่ำลงของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ นับเป็นการเดิมพันเพื่อหวังเอาชนะคู่แข่งทั้งในท้องถิ่นและบริษัทข้ามชาติที่นำสมาร์ทโฟนเข้าไปทำตลาดในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่สำคัญๆ อย่าง เซี่ยวหมี่ คอร์ป ผู้ผลิตสัญชาติจีน ที่เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ที่ใช้กับสมาร์ทโฟนระดับบนของซัมซุงแต่จำหน่ายในราคาเพียง 250 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 8,800 บาท) หรือแม้แต่แอปเปิลที่ก้าวเข้ามาแข่งขันด้วยไอโฟนรุ่นล่าสุดที่ตั้งราคาไว้ 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14,000 บาท)
ในช่วงปีที่ผ่านมา ซัมซุงปรับกลยุทธ์ด้วยการเสริมฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์เข้ากับอุปกรณ์ระดับล่างและระดับกลางของตนเองที่มีราคาขายระหว่าง 100-300 ดอลลาร์สหรัฐฯ อาทิเช่น สมาร์ทโฟนกาแลคซี เจ ซีรีส์ ซึ่งทำยอดขายได้ดีในอินเดียและอินโดนีเซีย ได้รับการออกแบบใหม่ให้รูปลักษณ์คล้ายกับสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิพ กาแลคซี เอส ซีรีส์ แต่จำหน่ายในราคาไม่ถึงครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่าการลดราคาอุปกรณ์จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของซัมซุง และไม่ใช่ทางออกระยะยาวในการแก้ปัญหาการชะลอตัวของธุรกิจสมาร์ทโฟน ข้อมูลจากบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ระบุว่า อัตรากำไรของธุรกิจสมาร์ทโฟนซัมซุงลดลงจาก 16.1% ในปี 2556 เหลือ 8.9% เมื่อปีก่อน ผู้บริหารซัมซุงกล่าวว่า บริษัทมีแผนการฟื้นอัตรากำไรด้วยการลดต้นทุนการผลิตและลดจำนวนรุ่นสมาร์ทโฟน แต่กระบวนการดังกล่าวต้องอาศัยเวลา
ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ซัมซุงเปิดเผยว่า บริษัทคาดหมายกำไรจากการดำเนินการในช่วง 3 เดือนแรกของปี 6.6 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสแรกของปี 2557 หลังจากการตัดสินใจเลื่อนการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนแฟล็กชิพรุ่นล่าสุด กาแลคซี เอส 7 ขึ้นมาเป็นช่วงไตรมาสแรกช่วยกระตุ้นยอดขายขึ้น
ในตลาดอินเดีย กลยุทธ์ใหม่ของซัมซุงช่วยให้ซัมซุงทวงคืนส่วนแบ่งตลาดกลับมาได้สำเร็จ โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยคานาลิสระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดของซัมซุงในไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 26% จาก 22% ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่คู่แข่งท้องถิ่นอย่างไมโครแม็กซ์มีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 22% เหลือ 13%
ในอินโดนีเซีย โทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ออกวางตลาดในปีที่ผ่านมา ช่วยให้ซัมซุงกลับมาทวงตำแหน่งผู้นำคืนจากผู้ผลิตท้องถิ่น เอเวอร์ครอส ได้ในไตรมาส 3 ของปีก่อน นักวิเคราะห์ประเมินว่า ราคาขายโทรศัพท์มือถือเฉลี่ยของซัมซุงลดลง 25% เหลือ 145 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 จากช่วงเดียวกันของปี 2557
สำหรับในตลาดจีน ซัมซุงส่งกาแลคซี เอ ซีรีส์ ออกวางตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย หลังจากปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งตลาดของซัมซุงตกลงไปอยู่อันดับ 6 หลังจากครองตำแหน่งผู้นำมาเป็นเวลาหลายปี ผู้บริหารซัมซุงเชื่อว่า สถานการณ์ในจีนผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว และยอดขายจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,147 วันที่ 10 - 13 เมษายน พ.ศ. 2559