***** ดัชนีหุ้นไทยวิ่งแรงทะลุ 1,300 จุด ขึ้นมาได้แบบรวดเดียวจบ โดยปรับบวกขึ้นไปถึง 27 จุด หลังจากที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับบวกขึ้นไปในวันจันทร์ที่ 18 พ.ค. ถึง 911.95 จุด โดยมีสาเหตุมาจากการทดลองวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ของบริษัท Moderna Inc. ที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ ในขณะที่ราคาหุ้นใน “กลุ่มพลังงาน” ก็ได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มน้ำมัน ที่ปรับแรงขึ้นมาตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แต่บอกตรงๆ ว่าการปรับขึ้นแรงลงแรง วูบๆ วาบๆ แบบวัยรุ่นแบบนี้ เจ๊เมาธ์ไม่ค่อยจะให้น้ำหนักนะคะ เจ๊เมาธ์ชอบแบบเนิบๆ แน่นๆ แบบมีจังหวะนะคะ อูยย...ถ้าเป็นแบบนี้มันถึงใจแล้วได้ใจมากกว่าอีกค๊า ก็ตอนนี้เจ๊ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วนี่ค่ะ
***** ผลการดำเนินงานของบริษัทมันเป็นของคู่กันกับประสิทธิภาพของการบริหารงาน ยกตัวอย่างเช่น การบินไทย (THAI) ที่ขาดทุนต่อเนื่องกันมาหลายปี ทั้งที่มีการเปลี่ยนตัวผู้นำองค์กรไปแล้วไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย ...ไม่ว่าจะใช้ผู้บริหารมืออาชีพ มวยแทนหรือแม้แต่ผู้บริหารมือสมัครเล่น การบินไทย (THAI) ก็ผ่านมาหลายรูปแบบหลายยุคหลายสมัยแล้วค่ะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครนำพาการบินไทย (THAI) ให้หลุดพ้นไปจากความเป็นบริษัทที่ล้มเหลวในเรื่องของผลการดำเนินงานไปได้สักครั้ง เจ๊เมาธ์ก็ได้แต่หวังว่าการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูแบบผ่าตัดกันทั้งองค์กรคราวนี้ จะทำให้การบินไทยได้กลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติ ที่สามารถยืนด้วยขาตัวเองได้อย่างเต็มภาคภูมิซะที เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์เป็นกำลังใจให้พนักงานของการบินไทยทุกคนได้ผ่านวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปให้ได้นะคะ
***** นานๆ ทีจะเห็นหุ้นที่เคยใหญ่อย่าง BANPU ออกมาซิ่งให้แฟนๆ รุ่นเก่า, รุ่นเก๋า ได้หายคิดถึงกันซักทีนะคะ แหม...ตอนแรกได้ข่าวว่าไตรมาสนี้มีกำไรตั้ง 1.71 พันล้านบาท เจ๊เมาธ์ก็อุตส่าห์อนุโมทนาสาธุกับกำไร ที่นานๆ BANPU จะมีมาให้สักที แต่พอดูงบการเงินดีๆ ถึงได้รู้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1/63 ขาดทุนถึง 1.6 พันล้าน มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คือไตรมาส 1/62 ที่ขาดทุน 1.4 พันล้าน
***** ส่วนกำไรที่มีในไตรมาสที่ 1/63 กลับเป็นกำไรพิเศษ 3.5 พันล้านบาท ที่ได้มาจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเมื่อหักลบกลบหนี้แล้ว จึงทำให้มีกำไรเหลืออยู่ถึง 1.71 ล้านบาท นั่นเองนะคะ แล้วเจ๊เมาธ์ก็ยังได้ยินเสียงกระซิบเพิ่มเติมมาว่าในไตรมาสที่ 2/63 จะเป็นช่วงที่ BANPU ตกต่ำที่สุด โดยจะเริ่มฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 4/63 ไปโน้นเลยค๊า เอาเป็นว่าใครที่กำลังเพลินกับกำไรของหุ้นตัวนี้ ก็ทราบแล้วเปลี่ยนนะเจ้าค่ะ
***** เจ๊เมาธ์บอกตรงๆ ว่า เจ๊...งงกับพวกหุ้นตัวใหญ่ๆ ที่เข้าตลาดในช่วงหลังๆ มากเลยนะคะ เข้าตลาดมาแล้วมีปัญหาแทบทุกตัว...อย่าง AWC ของตระกูลเบียร์ช้าง รายนี้สงสัยว่าคงจะต้องอยู่ห่างจากราคา IPO ไปอีกนาน (ราคา IPO = 6.00 บาท) เพราะตั้งแต่หมดกรีนชู (Greenshoe) ราคาหุ้นก็ไม่เคยได้กลับไปสูงกว่าราคา IPO ได้สักที ล่าสุดก็ยังอยู่ที่ 159 เท่า ในขณะที่กำไรของไตรมาสแรกของปีมีกำไรเพียงแค่ 108 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมากกว่าครึ่งนะคะ ก็ได้แต่เอาใจช่วยคนที่ติดดอยค่ะ งานนี้ได้แต่บอกว่ารอไปยาวๆ เลยค่า
***** ส่วนทาง BAM ตอนนี้นอกจากเรื่องที่ได้เข้าไปอยู่ในดัชนีคำนวณ MSCI Thailand แล้ว นอกจากนั้นตอนนี้น้องแบมรู้สึกว่าจะไม่มีเรื่องน่ายินดีอื่นๆ เลยค่า เรื่องของกำไรไตรมาสนี้ก็มีแค่ 698 ล้าน ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 78% ในขณะที่ว่ากันว่ากำไรปีนี้จะลดลง 38% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอีกด้วยนะคะ สาเหตุก็เป็นเพราะว่า BAM ไม่มีโปรเจคที่จะขายสินค้าชิ้นใหญ่ๆ แล้ว ในขณะเดียวกันก็ยังต้องเตรียมเงินไว้ซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ สรุปว่าแฟนๆ ของน้องแบมต้องรอลุ้นอานิสงส์ของ MSCI เป็นหลักอย่างเดียวเลยค่า