ซีเอ็นบีซี สื่อใหญ่ของสหรัฐ รายงานว่า ทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างกำลังเร่งมือ พัฒนาวัคซีน ยา และค้นคว้าหาวิธีการรักษาโรคที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ซึ่งจนถึงขณะนี้ มียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วมากกว่า 4.7 ล้านคนภายในเวลาเพียง 4 เดือนกว่า ๆ นับจากที่มีการรายงานผู้ติดเชื้อคนแรกในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีนเมื่อปลายปี 2562
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2563 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA)ได้อนุมัติให้มีการใช้ยาต้านไวรัส “เรมเดซิเวียร์” ของบริษัทกิเลียด ไซเอินซ์ ได้สำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉิน (Emergency Usage Authorization: EUA) หลังจากที่ได้มีการทดสอบทางคลินิกแล้วว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับยาดังกล่าวสามารถฟื้นตัวและหายป่วยในเวลา 11 วัน นั่นหมายความว่า แพทย์ในสหรัฐฯ สามารถใช้ยาเรมเดซิเวียร์รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลได้แล้วแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศรับรองว่ายาดังกล่าวเป็นยารักษาโควิด-19 อย่างเป็นทางการ
ระหว่างที่ยังไม่มียารักษาอย่างเป็นทางการนี้ นักวิทยาศาสตร์จึงยังคงมุ่งมั่นพัฒนาวัคซีนและค้นคว้าหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพกันต่อไป และต่อไปนี้คือโครงการพัฒนาวัคซีนและยารักษาโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก จากการประมวลและรวบรวมของซีเอ็นบีซี
วัคซีน
อ่านเพิ่มเติม ข่าวดี การทดลองวัคซีนโควิดคืบหน้า อย่างเร็วได้ฉีดมกรา 64
ยาและการบำบัดรักษา
นอกเหนือจากนี้ ยังมีการวิจัยของบริษัท ทาเคดะ ฟาร์มาซูติคอล ของญี่ปุ่น ที่มีแผนเริ่มการทดสอบยาที่สกัดจากแอนติบอดี หรือโปรตีนที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด-19 สร้างขึ้นมา คาดว่าการทดสอบอย่างเร็วที่สุดจะเกิดขึ้นได้ในเดือน ก.ค.นี้ ขณะที่ บริษัท โรช (Roche) จากสวิตเซอร์แลนด์ ก็กำลังทดลองทางคลินิกระยะ 3 สำหรับประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาโทซิลิซูแมบ (tocilizumab) เพื่อใช้รักษาอาการปอดอักเสบแบบปานกลางจนถึงรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19
แหล่งข้อมูลอ้างอิง Scientists race to find a cure or vaccine for the coronavirus. Here are the top drugs in development