“สนธิรัตน์” สกัดโกงรื้อเกณฑ์ยื่นของบกองทุนอนุรักษ์ฯ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การจัดสรรงบ กองทุนอนุรักษ์พลังงาน ปีงบ 2563 วงเงิน 5.6 พันล้านบาท  ซึ่งล่าสุดทางสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้เปิดให้ยื่นข้อเสนอตั้งแต่ 8-18 พฤษภาคม โดยเบื้องต้นมีผู้มายื่นรวมวงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งผู้ที่จะเสนอโครงการเพื่อขอสนับสนุนวงเงินดังกล่าวมี 2 ประเภทได้แก่

1.เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา และปีนี้ได้เพิ่มประเภท  และ2. รูปแบบคณะกรรมการจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและมีพลังงานจังหวัด เกษตรจังหวัด และจะรวมถึงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่เป็นรูปแบบสถานีเครือข่ายพลังงาน เป็นต้น  ซึ่งงบทั้งหมดมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากหลังผลกระทบจาก "โควิด-19" (COVID-19) เป็นสำคัญ

ทั้งนี้ ขั้นตอนการดำเนินงานได้กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการ 4 ชุด ประกอบด้วย 1.อนุกรรมการกองทุนฯ ซึ่งมีรมว.พลังงานเป็นประธาน  ,2.คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการที่มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน  ,3.คณะอนุกรรมการประเมินผลโครงการที่มีนายพรายพล  คุ้มทรัพย์เป็นประธาน  และ4.คณะอนุกรรมการบริหารสำนักงานที่มีนายสกล วรัญญวัฒนา เป็นประธาน

“ขั้นตอนต่างๆในการพิจารณานั้นตนเองไม่สามารถไปแทรกแซงและมีอำนาจในการอนุมัติได้เพราะขั้นตอนการอนุมัติสุดท้ายจะต้องเสนอผ่านคณะกรรมการกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์ฯ (บอร์ดกองทุนอนุรักษ์) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเห็นชอบ”

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า โครงการที่ได้อนุมัติก็จะต้องขึ้นเว็บต์ใซต์ให้ตรวจสอบ โดยหลังจากวันที่ 18 พฤษภาคมที่ปิดยื่นรับข้อเสนอต่อไปก็เป็นขั้นตอนของคณะทำงานปลัดไปพิจารณาให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่วางไว้  ซึ่งจะมุ่งเน้นแผนเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน และพลังงานทดแทนที่จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้ โดยถือเป็นแนวทางที่สำคัญในการพิจารณาโครงการ

ส่วนกรณีกระแสข่าวการนำเงินกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานแลกกับเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังงานประชารัฐโดยเสนองบตัวเลข 8 หลักให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้ยกมือสนับสนุนนั้น  เรื่องดังกล่าวยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  เพราะทุกขั้นตอนการอนุมัติได้กำหนดระบบกลไกการตรวจสอบที่จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น หากเทียบกับอดีต ดังนั้น ตนจึงไม่ได้กังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด

"ตนไม่มีอะไรไม่โปร่งใสจึงไม่ต้องกังวลว่าจะกระทบกับตำแหน่งรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค โดยยืนยันว่าตนได้วางกระบวนการในการพิจารณาและคัดเลือกและรวมไปถึงการติดตามหลังอนุมัติ และที่สำคัญหลังการอนุมัติโครงการจะมีการนำมาเปิดเผยในเว็บต์ไซต์ และโครงการไหนในอดีตมีปัญหาและปัจจุบันที่ถูกร้องเรียนผมก็ขึ้นแบล็คลิสต์ไม่ให้ขออีก ถามว่าอดีตเหล่านี้เคยเปิดเผยหรือไม่ ผมพยายามปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นในอดีตที่เกิดขึ้นหากพบโครงการใดมีปัญหาก็สามารถร้องเรียนได้"นายสนธิรัตน์กล่าว

                นายกุลิศ  สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องตั้งเกณฑ์ให้สอดรับกับเศรษฐกิจฐานรากและการจ้างงาน  โดยวงเงินที่ขอมา 2 หมื่นล้านบาทสูงกว่างบประมาณที่วางไว้ที่มีเพียง 5.6 พันล้านบาทนั้น หากยึดเกณฑ์ที่กำหนดมั่นใจว่าจะคัดเลือกและนำเสนอบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯอนุมัติกลางมิถุนายนนี้เ  พื่อให้โครงการต่างๆ ขับเคลื่อนได้ตามแผนที่กำหนดที่จะต้องเริ่มตั้งแต่ 1 กรกฏาคม ค. 63