กกต.ยกคำร้อง “ไพลิน เทียนสุวรรณ”ปมแจกเงินซื้อเสียง

17 พ.ค. 2563 | 10:06 น.

กกต.ยกคำร้อง “ไพลิน เทียนสุวรรณ” ส.ส.สมุทรปราการ พปชร. ปมแจกเงินซื้อเสียงเลือกตั้ง

ไพลิน เทียนสุวรรณ

 

วันที่17 พ.ค.63 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.กรณีหลังประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ได้รับคำร้องว่า น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต 7 สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปัจจุบันได้รับการเลือกตั้ง ผู้ถูกร้องที่ 1 และ นายสมหมาย สุดสิน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต 7 สมุทรปราการ ผู้ถูกร้องที่ 2 กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (1)


ทั้งนี้ กกต.พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ แล้ว ได้ความว่า ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2562 เวลา 18.45 น.บริเวณร้านค้าหมู่ที่ 12 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ผู้ถูกร้องที่ 2 ให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 2 คน คนละ 500 บาท เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ น.ส.ไพลิน พร้อมทั้งขอดูเอกสารแจ้งเจ้าบ้านเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.1/6


 

จากการไต่สวนพยานที่ผู้ร้องอ้างว่าเป็นผู้รับเงิน ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า บุคคลที่ปรากฎตามภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งที่หน้าร้านค้าของพยานตามวันและเวลาที่มีการกล่าวอ้าง ไม่ใช่ผู้ถูกร้องที่ 2 แต่หลังจากนั้นพยานที่ผู้ร้องอ้างว่าเป็นผู้รับเงินคนหนึ่งได้มีหนังสือขอแก้ไขถ้อยคำของตนว่า บุคคลที่ปรากฎตามภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด คือ ผู้ถูกร้องที่ 2 โดยอ้างว่าในการให้ถ้อยคำครั้งแรก พยานต้องรีบกลับไปฟอกไตที่บ้าน ประกอบกับภาพไม่ชัดเจน และพยานเพิ่งลอกต้อกระจกตามา พยานสับสนระหว่างสีเสื้อของผู้ถูกร้องที่ 2 ที่ใส่มาในวันที่ขอดูรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และทำเครื่องหมายในใบรายชื่อกับวันที่ผู้ถูกร้องที่ 2 มาแจกเงินซื้อเสียง

ส่วนพยานอีกคนหนึ่งมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมว่า เหตุที่ในครั้งแรกให้ถ้อยคำว่าบุคคลที่ปรากฎตามภาพไม่ใช่ผู้ถูกร้องที่ 2 นั้น เนื่องจากพยานเกิดความสับสนและขอยืนยันว่าบุคคลที่ปรากฏตามภาพคือผู้ถูกร้องที่ 2 การให้ถ้อยคำของพยานผู้ร้องจึงมีลักษณะกลับไปกลับมา มีน้ำหนักน้อย ไม่น่าเชื่อถือ

 

 ประกอบกับผู้ถูกร้องที่ 2 ปฏิเสธว่ามิได้กระทำการตามที่มีข้อกล่าวหา อีกทั้งจากการตรวจสอบธนบัตรฉบับละ 500 บาท จำนวน 6 ฉบับ และเอกสารแจ้งเจ้าบ้านเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 2 แผ่น ที่ผู้ร้องอ้างเป็นพยานวัตถุ โดยกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลตรวจสอบไม่พบสารพันธุกรรม DNA และลายนิ้วมือแฝงของผู้ถูกร้องที่ 2 บนพยานวัตถุทั้งสองรายการ 

 

และการตรวจแฟ้มข้อมูลภาพวงจรปิดของกลางซึ่งถูกบันทึกไว้ในวันที่ 23 มีนาคม 2562 ช่วงระหว่างเวลา 17.00 - 20.00 น.ที่พยานผู้ร้องอ้างว่ามีภาพเหตุการณ์ขณะที่ผู้ร้องที่ 2 จ่ายเงินให้แก่พยานแต่ภาพล้ม ไม่พบภาพบุคคลและไม่พบการตัดต่อของแฟ้มข้อมูลภาพดังกล่าว ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกร้องทั้งสอง กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (1) ตามคำร้องแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง