อัพเดทสถานการณ์โควิด17 พฤษภาคม 2563

17 พ.ค. 2563 | 08:12 น.

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ 3 ราย พบประวัติเดินทางมาจาก ปากีสถาน 1 ราย อียิปต์ 2 ราย พักอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ ไม่มีรายงานเสียชีวิต รักษาหายสะสมรวม 2,856 ราย เผย ผลสำรวจพฤติกรรมคนไทย ลดลงทุกด้าน หลังรัฐบาล คลายล็อก

17 พฤษภาคม 2563 นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค และนพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย ร่วมแถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย (ทั้งหมดอยู่ในสถานกักตัวเฝ้าระวังโรคที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศปากีสถานและอียิปต์) ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 1 ราย รวมกลับบ้านสะสม 2,856 ราย คิดเป็น 94.31 % ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 116 รายหรือคิดเป็น 3.83 %ของผู้ป่วยทั้งหมด ผู้เสียชีวิตสะสม 56 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 3,028 ราย

 

ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์ของประเทศจะดีขึ้นและในวันนี้รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขต่อไปให้เป็นนิสัย สร้างชีวิตวิถีใหม่ตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 โดยชีวิตวิถีใหม่ประชาชนให้คัดกรองตนเองว่าป่วยหรือเสี่ยงป่วย ประเมินความจำเป็นและวางแผนออกนอกบ้านให้สั้น เลือกสถานบริการมาตรฐานตามมาตรการของรัฐ ใช้เครื่องป้องกันสวมหน้ากาก เจลแอกอฮอล์ และให้ความร่วมมือตามมาตรการของสถานประกอบการ สำหรับชีวิตวิถีใหม่ของผู้ประกอบการที่กลับมาเปิดให้บริการ ขอให้จัดให้มีการลงทะเบียนจัดคิวล่วงหน้า จัดสถานที่รอ มีจุดคัดกรอง จุดบริการล้างมือ จัดสถานที่หรือบริการลดแน่น/ เว้นระยะทำความสะอาดจุดเสี่ยง สัมผัสร่วม ดูแลระบบระบายอากาศ งดจำหน่ายสุรา จำกัดเวลาบริการ และจำกัดบริการใกล้ชิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดระลอก 2

อย่างไรก็ดี จากการสำรวจการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ช่วงก่อนและหลังมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 (วันที่ 23-30 เม.ย.63 และ วันที่ 8-14 พ.ค. 63) ของ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้กลุ่มตัวอย่าง 2 ครั้ง จำนวนเกือบ 40,000 ราย พบว่า ประชาชนมีพฤติกรรมการป้องกันส่วนบุคคลโดยรวมลดลง จาก 77.6 % เหลือ 72.5% โดยการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้ง จาก 91.2 %เหลือ 91.0%  การล้างมือด้วยสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง จาก 87.2 %เหลือ 83.4 %การกินร้อน ใช้ช้อนกลางของตนเองทุกครั้ง จาก 86.1 %เหลือ 82.3 % การระวังไม่อยู่ใกล้คนอื่น ในระยะน้อยกว่า 2 เมตรทุกครั้ง จาก 65.3 %เหลือ 60.7 %ไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก ทุกครั้ง จาก 62.9 %เหลือ 52.9  % 

 

ขอให้คำนึงถึงสุขภาพอนามัยของตนเองและคนใกล้ชิดในครอบครัวเป็นสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่ออกนอกบ้าน เป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงที่อาจนำเชื้อเข้ามาให้คนในครอบครัว จำเป็นต้องคงเข้มในมาตรการเพื่อลดโอกาสการนำเชื้อจากนอกบ้านมาติดสมาชิกในครอบครัว โดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่อยู่ร่วมกับผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการรับประทานอาหารจากสำรับเดียวกัน วางแผนการเดินทางเมื่อต้องโดยสารรถสาธารณะเพื่อเลี่ยงความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน หากไปในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น ผู้คนแออัด ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อและโรคโควิด 19 จะกลับมาระบาดซ้ำได้ และหากพบว่าป่วย มีไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย ปวดเมื่อยตามตัว ให้ไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติที่ผ่านมา และหยุดอยู่บ้าน   

อัพเดทสถานการณ์โควิด17 พฤษภาคม 2563