รฟท. เปิดให้บริการ 42 ขบวนทั่วประเทศ 18 พ.ค.

16 พ.ค. 2563 | 02:37 น.

รฟท.พร้อมเปิดให้บริการ 42 ขบวนรถทั่วประเทศ ตั้งแต่ 18 พ.ค.ปชช.จองล่วงหน้าก่อนเดินทางได้ตั้งแต่ 16 พ.ค.นี้

16 พฤษภาคม 2563 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลาย การบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกันและการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตามลำดับขั้นตอนการควบคุมโอกาสเสี่ยงของบุคคลสถานที่และประเภทกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อประชาชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและตามผลการประเมินสถานการณ์ของฝ่ายสาธารณะสุข ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมีความต้องการในการเดินทางมากขึ้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถไฟ ทั้งการเดินทางภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล ข้ามเขตพื้นที่จังหวัด การรถไฟฯ จึงได้ประกาศเปิดเดินขบวนรถโดยสารพิเศษเป็นการชั่วคราว 30 วัน ซึ่งให้บริการเฉพาะรถโดยสารชนิดพัดลมเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 พร้อมทั้งเปิดเดินขบวนรถโดยสารบริการสังคม(ชานเมือง) เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สำหรับขบวนรถที่เปิดให้บริการในเส้นทางต่างๆ มีดังนี้

1. ขบวนรถโดยสารพิเศษ  เปิดให้บริการชั่วคราว 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม - 17 มิถุนายน 2563 จำนวน 8 ขบวน (ไป-กลับ) ดังนี้

1.1 สายเหนือ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม - 16 มิถุนายน 2563 เปิดให้บริการขบวนรถด่วนที่ 9051 กรุงเทพ ออกเวลา 05.30 น.  ถึงเชียงใหม่ เวลา 18.30 น.

1.2 สายเหนือ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม - 17 มิถุนายน 2563 เปิดให้บริการขบวนรถด่วนที่ 9052 เชียงใหม่ ออกเวลา 05.30 น.  ถึงกรุงเทพ เวลา 18.30 น.

1.3 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม - 16 มิถุนายน 2563 เปิดให้บริการบริการขบวนรถด่วนที่ 9071  กรุงเทพ ออกเวลา 06.00 น.  ถึงอุบลราชธานี เวลา 14.55 น.

1.4 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม - 17 มิถุนายน 2563 ประกาศให้เดินขบวนรถด่วนที่ 9072  อุบลราชธานี ออกเวลา 06.00 น.  ถึงกรุงเทพ เวลา 14.50 น.

1.5 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม - 16 มิถุนายน 2563 ประกาศให้เดินขบวนรถด่วนที่ 9075  กรุงเทพ ออกเวลา 07.00 น.   ถึงหนองคาย เวลา 16.40 น.

1.6 สายตะวันออกเฉียงเหนือ  ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม - 17 มิถุนายน 2563 ประกาศให้เดินขบวนรถด่วนที่ 9076  หนองคาย ออกเวลา 07.00 น.  ถึงกรุงเทพ เวลา 16.35 น.

1.7 สายใต้ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม - 16 มิถุนายน 2563 ประกาศเปิดเดินขบวนรถด่วนที่ 9085  กรุงเทพ ออกเวลา 05.00 น. ถึงชุมทางหาดใหญ่ เวลา 18.45 น. (ขบวนรถให้บริการถึงชุมทางทุ่งสง เนื่องจากจังหวัดพัทลุงและสงขลายังมีล็อกดาวน์จังหวัด)

1.8 สายใต้ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม - 16 มิถุนายน 2563 ประกาศเปิดเดินขบวนรถด่วนที่ 9086 ชุมทางหาดใหญ่ ออกเวลา 05.00  น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.50 น. (ขบวนรถให้บริการจากชุมทางทุ่งสง เนื่องจากจังหวัดพัทลุงและสงขลายังมีล็อกดาวน์จังหวัด )

2. ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จำนวน 34 ขบวน (ไป-กลับ) ตามตาราง

2.1 สายเหนือ  ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดาเมือง จำนวน 4 ขบวน

2.2 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ขบวนรถชานเมืองและขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 16 ขบวน

2.3 สายใต้ ขบวนรถธรรมดาและขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 8 ขบวน

2.4 สายตะวันออก ขบวนรถธรรมดา จำนวน 4 ขบวน

2.5 สายแม่กลอง-บ้านแหลม ขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 2 ขบวน

นายนิรุฒฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน / นั่ง ให้ชัดเจน ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) การจัดเดินรถโดยสารชนิดพัดลมเพื่อให้บริการเท่านั้น และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง

สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสดังกล่าว