ราคาทองคำดีดตัวทำนิวไฮ 1 เดือน

16 พ.ค. 2563 | 00:17 น.

ราคาทองคำดีดตัวทำนิวไฮ 1 เดือน ขณะ SPDR ถือทองมากกว่า 1,100 ตัน สูงสุดกว่า 7 ปี

 

ราคาทองดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน

ราคาทองคำดีดตัวอีกครั้งทำนิวไฮ

ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 1.2% สู่ระดับ 1,104.72  ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

ณ เวลา 23.48 น.ตามเวลาไทย (15 พ.ค.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ดีดตัวขึ้น 16.0 ดอลลาร์ หรือ 0.91% สู่ระดับ 1,756.90 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่สหรัฐฯออกกฎเพื่อสกัดการส่งออกเซมิคอนดัคเตอร์ให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน

 

แหล่งข่าววงในของจีนที่ใกล้ชิดกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ระบุว่า จีนกำลังเตรียมตอบโต้บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หากสหรัฐฯยังคงใช้มาตรการกีดกันบริษัทหัวเว่ย

ราคาทองคำดีดตัวทำนิวไฮ 1 เดือน

นายหู สีจิน บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ของรัฐบาลจีน ระบุว่า จีนจะทำการสอบสวนบริษัทสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงควอลคอมม์, ซิสโก ซิสเต็มส์ และแอปเปิล หากสหรัฐฯยังคงใช้มาตรการกีดกันไม่ให้หัวเว่ยเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน

 

"เท่าที่ผมรู้ หากสหรัฐฯยังคงสกัดไม่ให้หัวเว่ยเข้าซื้อสินค้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จีนก็จะสอบสวนบริษัทควอลคอมม์, ซิสโก และแอปเปิลตามรายชื่อในบัญชีบริษัทที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ (unreliable entity list) รวมทั้งระงับการซื้อเครื่องบินจากโบอิ้ง" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

 

นักลงทุนจำนวนมากในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทต่างก็ติดตามทวิตเตอร์ของนายหูเพื่อรับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาของสหรัฐฯ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรุดตัวลง 16.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535 และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 12.3% หลังจากลดลง 8.3% ในเดือนมี.ค.

 

ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปิดร้านค้า ขณะที่ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน โดยลดการใช้จ่ายและลดการเดินทาง