ลุงตู่รู้ไหม “เสือโหย” ตั้งโต๊ะใช้เงิน4แสนล้าน

15 พ.ค. 2563 | 10:50 น.

คอลัมน์อยู่บนภู ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3575 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 17-20 พ.ค.63 โดย... กระบี่เดียวดาย

 

          แม้ศึกชิงหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะสงบศึกลงได้ชั่วคราวในหน้าฉาก หลัง ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่าตอนนี้ต้องมุ่งแก้ปัญหาโควิดเป็นสำคัญมากกว่าการเมือง และจะไม่มีการตัดสินใจเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้นในห้วงเวลานี้ ส่งผลให้ 2 ขั้วข้างที่ต่างเคลื่อนไหววัดขุมกำลังก่อนหน้านี้ต่างสงบลง

          แต่เป็นเพียงการสงบลงในหน้าฉากเท่านั้น ยังมีการเคลื่อนไหวลงใต้ดิน ปล่อยข่าวสาดใส่ทำลายกันวุ่นวาย บางวันก็มีข่าวปล่อยออกมาว่าข้างนั้นลาออกแล้ว ข้างนู้นถอยแล้ว มุ้งนั้นไปแล้ว!! กลยุทธ์สร้างความหวาดระแวงให้เกิดการแตกขั้วโผเข้าหาผู้ชนะ       

          ถามว่าทำไมต้องสนใจการเปลี่ยนแปลงในพปชร. บ้างก็ว่าก็แค่การแย่งชามข้าวของนักการเมือง แค่การหาทาง หาช่องสปริงเด้งไปสู่เก้าอี้รัฐมนตรีในอนาคต เมื่อมีการปรับครม.ของพวกไร้คุณสมบัติ แต่กระสันอยาก ที่ไม่เคยเป็นรัฐมนตรี หรือพวกอดีตรัฐมนตรีที่อื้อฉาวที่เรื่องยังคาราคาซังอยู่ในป.ป.ช. แต่ต้องการเข้าสู่อำนาจเพื่อปกปิดบาดแผลยื้อชะตากรรมตัวเอง

          แต่ที่ต้องสนใจด้วยเหตุว่าพปชร.เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ควบคุมจัดสรรงบประมาณผ่านกลไกรัฐ การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่อำนาจ เพื่อไปบังคับบัญชาราชการจัดสรรงบประมาณจึงสำคัญ ต้องยอมรับว่าการเมืองแบบเก่า ซึ่งลากมาถึงปัจจุบัน นอกจากการใช้เงินเพื่อสนับสนุนส.ส.รายเดือนของหัวหน้ากลุ่มก๊วนแล้ว การจัดสรรงบโครงการลงพื้นที่ยังเป็นปัจจัยสำคัญยิ่ง จึงไม่แปลกที่นักการเมือง พรรคการเมืองตั้งเป้าอันดับแรกคือการอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล    

          ภายหลังเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ขึ้น “รัฐบาลลุงตู่” มุ่งเยียวยาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทั้งโยกงบประมาณปี 2563 มาใช้แก้ปัญหา ทั้งการออกพ.ร.ก.เงินกู้ 2-3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท 

          ดูบัญชีแนบท้ายพ.ร.ก. มีแผนงานทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 45,000 ล้านบาท รองรับค่าใช้จ่าย ค่าเยียวยา คําชดเชย และค่าเสี่ยงภัยสําหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เป็นต้น แผนงานหรือโครงการช่วยเหลือ เยียวยา และ ชดเชยประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 555,000 ล้านบาท 

          แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม วงเงิน 400,000 ล้านบาท ทั้งโครงการลงทุนและกิจกรรมการพัฒนาที่สามารถพลิกฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพ และยกระดับการค้า การผลิต และการบริการในสาขาเศรษฐกิจที่สําคัญของประเทศ โดยครอบคลุมภาค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้าและการลงทุน ท่องเที่ยวและบริการ

          แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน ผ่านการดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยการส่งเสริมตลาดสําหรับผลผลิต และผลิตภัณฑ์ของธุรกิจชุมชนที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวหรือภาคบริการอื่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน การจัดหาปัจจัยการผลิตและสิ่งอํานวยความสะดวก ที่จําเป็นสําหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งการสร้างการเข้าถึงช่องทางการตลาด พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานคุณภาพ และมูลค่าเพิ่มของสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน

          แผนงานหรือโครงการเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคภาค ครัวเรือนและเอกชน รวมถึงการลงทุนต่างๆ ของภาคเอกชนเพื่อให้สภาวะ การบริโภคและการลงทุนกลับเข้าสู่ระดับปกติได้โดยเร็ว

          แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านการดําเนินโครงการหรือ กิจกรรมเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และ สนับสนุนกระบวนการผลิตเพื่อการพัฒนาประเทศในระยะต่อไป

          ที่ไล่เรียงเม็ดเงินให้เห็น ที่น่าจับตาและต้องจับตา คือ เม็ดเงิน 4 แสนล้านบาทตามแผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19

          เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่ามี “ขาใหญ่” ในกลุ่มก๊วนยึดพรรคพปชร.ตั้งโต๊ะกันแล้ว พร้อมส่งสัญญาณให้ ส.ส.รับรู้ต้อนเข้าคอก แล้วเขาจะทำโครงการ แผนงาน ผันไปลงพื้นที่ให้เอง ส.ส.หรือ ส.ต.ที่คะแนนดีกลัวตกขบวนจึงหวั่นไหว

          ต้องระมัดระวังกันให้ดีๆ ตรวจสอบวิเคราะห์กันดู แก๊ง ก๊วน ที่ตั้งโต๊ะนี้พฤติกรรมรับร้อยชัก 60 มีให้เห็นกันมาแล้ว เรียกง่ายๆ ในทางการเมืองพวกนี้มีพฤติกรรมอมเงิน

          แต่ที่สำคัญที่ต้องมองให้ลึก แม้จะตั้งโต๊ะตะโกนกวักมือไหวๆ พวกนี้อาจจะได้แค่ตั้งโต๊ะและตะโกนเท่านั้น ลุงตู่ คงไม่ยอมง่ายๆ ที่จะให้พวก “เสือโหย เสือหิว” มาตั้งแก๊งต่อรอง โดยเฉพาะต่อรองการใช้เงินหลวง

          ได้คำตอบหรือยัง ทำไมต้องยึดพรรค!!

          เปลี่ยนตัวคนใช้เงิน ถีบผู้บริหารชุดเก่าออกจากกระดาน

          ก็เงิน 4 แสนล้านมันเย้ายวน กระไรปานนั้น !!!