นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมจุดรับร้องเรียนเงินเยียวยา 5,000 บาท "เราไม่ทิ้งกัน" ที่กรมประชาสัมพันธ์ ว่า รัฐบาลพร้อมดูแลช่วยเหลือทุกคนอย่างเต็มที่ แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เปิดรับเรื่องร้องเรียนที่กรมประชาสัมพันธ์ แต่เพื่อดูแลประชาชนต่อเนื่อง ได้สั่งการให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้สาขาเป็นที่รับเรื่องเรียนต่อไปจนถึง จนถึงวันที่ 29 พ.ค. นี้
"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำให้ดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ดังนั้นการเปิดรับเรื่องก็จะดูหากตรงกับคลังดูแล เช่น อาชีพอิสระ ก็จะช่วยเหลือโดยเร็ว แต่ถ้าเกี่ยวกับกระทรวงอื่น ก็จะประสานให้หน่วยงานดูแลช่วยเหลือต่อไป"นายอุตตม กล่าว
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีสั่งให้ติดตามการเยียวยาอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้มีการใช้เงินจาก พ.ร.ก. เงินกู้ จ่ายเกษตรกรไป 1.5 แสนล้านบาทตามมาตรการ "เงินเยียวยาเกษตรกร" ส่วนโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" 15-16 ล้านคน ใช้เงิน 2.4 แสนล้าน ในจำนวนนี้เป็นงบ 7 หมื่นล้านบาท เป็นเงินกู้จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1.7 แสนล้านบาท และยังมีส่วนที่เป็นแรงงานประกันสังคม 10-11 ล้านคน ทำให้มีคนได้รับการช่วยเหลือแล้ว 36 ล้านคน
อีกทั้งคลังกำลังหารือช่วยเหลือกลุ่มที่ตกหล่นเพิ่มเติม แต่อาจไม่ใช่การแจกเงิน 5,000 บาท เช่น กลุ่มชายขอบ กลุ่มเปราะบาง ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ดูแลอยู่อีกกว่า 10 ล้านคน ทำให้ทั้งหมดแล้วรัฐบาลดูแลเยียวยาประชาชน 40-50 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 3.5 แสนล้านคนเหลือเงินอีก 2 แสนกว่าล้านบาท ก็จะนำมาเยียวยาผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีที่ติดปัญหากู้เงินธนาคารไม่ได้
สำหรับการตรวจสอบสิทธิขณะนี้มีผู้ได้รับสิทธิ์แล้วมากกว่า 14 ล้านคน ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาจะมีจ่ายเพิ่มเดือนที่ 4-6 หรือไม่ยังตอบไม่ได้ เป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามดูอยู่และเป็นเรื่องที่รัฐบาลตัดสินใจ และดูงบประมาณประกอบด้วย ส่วนกลุ่มที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จกว่า 1.7 ล้านคน ก็จะไปช่วยดูเป็นรายกรณี ลงไม่สำเร็จด้วยสาเหตุอะไร และดูปัญหาดูเป็นรายกรณีว่าจะได้ 5,000 บาท หรือไม่ ถ้าตรงสิทธิ์ตามเกณฑ์ก็จะได้รับเงิน ซึ่งล่าสุดพบว่า มีคนที่ซ้ำซ้อนกับเกษตรกรถึง 6 แสนคน เหลือคนที่ลงทะเบียนผิดจริงกรณี 1.1 ล้านคนเท่านั้น