ยัน 81 สหกรณ์ ถือหุ้นกู้ "การบินไทย" ฐานะการเงินแกร่ง

เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีสหกรณ์ได้เข้าไปถือหุ้นกู้ใน บมจ.การบินไทย ( บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีทั้งหมด 74 สหกรณ์  คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท จึงทำเกิดคำถามตามมาว่าจะเกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์หรือไม่

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยว่า สหกรณ์ที่ไปถือหุ้นกู้ในการบินไทย ความจริงมีทั้งหมด 82 สหกรณ์  เป็นหุ้นกู้ 81 สหกรณ์  เป็นมูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท ในส่วนหุ้นกู้ คือตราสารหนี้ชนิดหนึ่งที่ออกโดยเอกชนคล้ายกับการระดมทุนคล้ายกับการกู้ยืมเงิน โดยบริษัทเป็นผู้ออกเงินกู้ตามสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยเท่าไร โดยจะมีสัญญาเริ่มต้นและสิ้นสุดแน่นอน  เมื่อครบกำหนดชำระหุ้นกู้ก็จะถูกได้รับเงินคืนตามสัญญา และมี 4 สหกรณ์ที่ไปลงทุนในหุ้นสามัญ จำนวน 273 ล้านบาท

ใน 82 สหกรณ์ที่ไปถือหุ้นกู้ถือว่าเป็นสหกรณ์ชั้นนำและชั้น1  ทุกสหกรณ์ และเป็นสหกรณ์ที่มีฐานะความมั่นคงทางการเงินค่อนข้างสูงมาก และเงินที่มาทั้งหมดเป็นเงินจากหุ้นของสมาชิก  ส่วนที่กู้มาจากที่อื่นจะมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย สหกรณ์เหล่านี้มีสินทรัพย์รวมกัน 1.77 ล้านล้านบาท ถ้าเทียบกับสินทรัพย์ในสหกรณ์นี้มีทั้งหมด 3.3 ล้านล้านบาท สหกรณ์กลุ่มนี้เป็นสหกรณ์ที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง”

ถ้าเทียบกับปริมาณหุ้นกู้ที่ลงในบริษัทการบินไทยเมื่อเทียบกับสินทรัพย์แล้ว โดยรวมแล้วมากกว่า 3.26% จะเห็นได้ว่าในสัดส่วนที่ไปลงทุนกับหุ้นกู้ในบริษัทการบินไทยฯ มีสัดส่วนนิดเดียวเอง เมื่อเทียบกับสถานะทางการเงินของสหกรณ์โดยรวม ส่วนความกังวลที่เป็นห่วงว่าจะเกิดผลกระทบสถานะทั้ง 82 สหกรณ์หรือไม่

“ถ้าพิจารณาจากสัดส่วนการลงทุนหุ้นกู้ เป็นแค่ 3.26% แต่เมื่อพิจารณาผลกระทบต่อสหกรณ์ มีสินทรัพย์ที่ไม่เกิน5% มีทั้งหมด 77 สหกรณ์ มีที่เกิน 10%  ขึ้นไป มีอยู่ 7 สหกรณ์ หมายถึงว่ามีสินทรัพย์ที่ถือหุ้นกู้การบินไทยที่ถือหุ้นเกิน 10% มีแค่ 7 สหกรณ์ แสดงให้เห็นว่าตัวสถานะทางการเงินของสหกรณ์ที่ไปลงทุนเหล่านี้แทบจะไม่ได้รับผลกระทบสถานะทางการเงินของสหกรณ์เลย”

หากไปดูผลการดำเนินงานของสหกรณ์ หลายคนกังวลโดยเฉพาะสมาชิกจะกังวลว่าไปลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทการบินไทยฯ ทำให้สหกรณ์ตัวเอง จะล้มไปด้วยหรือไม่ หากในกรณีการบินไทยล้ม

นายพิเชษฐ์ กล่าวย้ำว่า การลงทุนแค่ 3.26% ของสินทรัพย์เท่านั้นเอง ไม่กระทบต่อสถานะแน่นอน สำหรับคณะกรรมการสหกรณ์/สมาชิกกังวลว่าไปลงทุนหุ้นกู้การเมืองไทยกว่า 4 หมื่นล้านจะไปกระทบผลกำไรขาดทุนสหกรณ์หรือไม่ หากยังไม่ชำระคืนตามกำหนด

ตามตารางที่เห็นในหุ้นกู้การบินไทย ที่สหกรณ์นำเงินไปลงทุนนั้นจะมีครบตามกำหนดการชำระเงินตั้งแต่ปี2563-2577 ไม่ใช่ครบกำหนดปีนี้ปีเดียว ซึ่งในปี2563 จะมีทั้งหมด 20 สหกรณ์ เป็นเงินหุ้นกู้ 1,108 ล้านบาท ก็เฉลี่ยกระจายไปยังสหกรณ์ 30 ล้านบาท 40 ล้านบาท หรือ 100 ล้านบาท  ตั้งคำถามว่าในปีนี้จะทำอย่างไร ซึ่งในปีที่ผ่านการบินไทยยังชำระปกติ แต่พอปีนี้ทุกคนอาจจะกังวลว่าบริษัทการบินไทยฯจะชำระหนี้ตามสัญญาได้หรือไม่

“ผมว่าในการครบสัญญาตามการชำระใน 20 สหกรณ์ จะครบเดือนสิงหาคม และกันยายน  ซึ่งส่วนใหญ่สหกรณ์เหล่าจะปิดบัญชีตามรอบบัญชี 31 ธันวาคม 2563 การกระทบทุกคนกังวล จะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญครบจำนวนหรือไม่ ผมว่าแม้จะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเต็ม 100% ผมเชื่อว่าจะไม่มีสหกรณ์ที่ขาดทุนจากการตั้งสำรองถ้าหนี้ไม่ได้รับชำระในปี2563 นี้"

นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า แต่ผมไม่มีวันปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแน่นอน ผมมีมาตรการออกมารองรับในส่วน 20 สหกรณ์ที่จะตั้งค่าหนี้สงสัยจะสูญไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ และผลกำไรขาดทุนของสหกรณ์ ที่จะส่งผลต่อเงินปันผลและกำไรของสมาชิก ยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดผลกระทบได้วางแผนเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงทิศทางที่รัฐบาลจะดูแลเข้าไปดำเนินการกับบริษัทการบินไทยฯ หากออกมาชัดเจน ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จะเข้าไปดูแล

ส่วนสหกรณ์อื่นที่ครบการชำระจ่ายตั้งแต่ปี2564 จำนวน 24 สหกรณ์ ปี2565 จำนวน 35 สหกรณ์ จนไล่ไปถึง 2577 ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลปีนี้จะต้องดูแลการบินไทยอย่างดี ซึ่งในปี 2564 เป็นต้นไป ไม่น่าจะมีปัญหาการชำระเงินของการบินไทย จะต้องได้รับชำระตามงวดสัญญา ดังนั้นเมื่อชำระตามงวดแล้ว การสำรองหนี้สงสัยจะสูญคงไม่เกิดขึ้น

ส่วนในเรื่องสภาพคล่องเกรงว่าในเมื่อหุ้นกู้ จะส่งส่งผลในสภาพคล่องในสหกรณ์เมื่อเทียบกับเงินสด และสินทรัพย์ที่แปลงเป็นเงินสดได้พบว่า มี 15 สหกรณ์ ที่มีสภาพคล่องต่ำกว่า 40% ต่อเงินรับฝาก ส่วนใหญ่แล้ว อยู่ในระดับ 10-30% ที่มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปถึงแม้ว้าการชำระหนี้จะขยายออกไปหรือว่าได้รับเงินชำระล่าช้า ยืนยันว่าสภาพคล่องการดำเนินงานจะไม่ได้รับผลกระทบ

แต่สิ่งที่เป็นความกังวลก็คือสมาชิกสหกรณ์ตกใจจากกระแสข่าวจะไปแห่ถอนเงินฝาก ซึ่งได้มีการตรวจสอบไปแล้วว่าในปัจจุบันมี 5-6 สหกรณ์ที่ถอนเงินฝากออกไปประมาณวันละ 100-200 ล้านบาท ซึ่งปกติสหกรณ์กลุ่มนี้จะถอนโดยปกติวันละ 100 ล้านบาท จะเพิ่มในการถอนเล็กน้อยเพราะกลัวสหกรณ์จะกระทบ ส่วนหากมีสมาชิกช่วงนี้จะถอนเงินก็ขอให้เตรียมเงินสดสำรองไว้หากจะถอนจริง เพราะสหกรณ์ส่วนใหญ่เป็นสหกรณ์ที่มีฐานะมั่นคง เงินที่มาของสหกรณ์มี 3 ทาง ได้แก่ 1. ลูกหนี้เงินกู้ 2.การลงทุน และ 3.การปล่อยให้สหกรณ์อื่นกู้ เป็นต้นเพื่อที่จะทำให้เงินออกดอกออกผล มีกำไร เป็นเงินปันผลคืนให้สมาชิก

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ทราบว่าอนาคตการบินไทยจะเป็นเช่นไร แต่กรมเองได้มีแผนสำรองไว้หมดแล้ว  แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะดูแลการบินไทยอย่างดี ไม่น่าเป็นห่วง