เปิดโผสินค้ารุ่ง รับ5คู่ค้าเลิกล็อกดาวน์

15 พฤษภาคม 2563

เปิดโผสินค้าไทยมีโอกาสส่งออกเพิ่มใน 5 ตลาดใหญ่ หลังคู่ค้าคลายล็อกดาวน์ สินค้าอาหาร เครื่องดื่ม สบู่ ผลิตภัณฑ์ยามาแรง ม.หอการค้าฯ ชี้ 3 ช่องทางใหญ่เร่งเจาะตลาด

 

จากโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต ระบบโลจิสติกส์ การขนส่ง จากหลายประเทศมีการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งเวลานี้หลายประเทศมีการผ่อนคลาย หรือยกเลิกล็อกดาวน์แล้ว ส่งผลให้การดำเนินธุรกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมามีความคล่องตัวมากขึ้น

ดร.อัทธ์  พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า หากทุกประเทศยกเลิกล็อกดาวน์ จะเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยเพิ่ม เฉพาะอย่างยิ่งใน 5 ตลาดใหญ่ ได้แก่ จีน สหรัฐฯ สหภาพยุโรป(อียู) อินเดีย และอาเซียน โดยตลาดจีนสินค้าที่มีโอกาสได้แก่ ผลไม้ ผัก เครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูป และเนื้อสัตว์,ตลาดสหรัฐฯได้แก่ เนื้อสัตว์ เนื้อปลา เสื้อผ้าและชิ้นส่วน ธัญพืชสำเร็จรูป,ตลาดอียู ได้แก่ เนื้อสัตว์ เนื้อปลา อาหารสำเร็จรูป,ตลาดอินเดีย ได้แก่ น้ำมันพืช เครื่องดื่ม สบู่ทำความสะอาด และตลาดอาเซียน ได้แก่ วัตถุดิบยางพารา ผลิตภัณฑ์ยา และผลไม้ เนื่องจากสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าจำเป็น และมีความต้องการเพิ่มขึ้นหลังโควิดคลี่คลาย

เปิดโผสินค้ารุ่ง  รับ5คู่ค้าเลิกล็อกดาวน์

                      ดร.อัทธ์  พิศาลวานิช

อย่างไรก็ดีปัญหาอุปสรรคสำคัญที่แต่ละตลาดยังมีอยู่ในเวลานี้ คือ กำลังซื้อที่ลดลงอย่างมาก,มาตรฐานและกฎระเบียบการนำเข้าที่เข้มงวดมากขึ้น และการขนส่งระหว่างชายแดนจะทำให้ล่าช้า ซึ่งข้อแนะนำช่องทางโอกาสสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปเจาะตลาด ได้แก่ ผ่านผู้ประกอบการที่ทำตลาดออนไลน์ในประเทศนั้น ผ่านทางโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมในประเทศนั้น และผ่านทางห้างสรรพสินค้า

“สินค้าไทยมีช่องทางโอกาสอีกมากหลังโควิดคลี่คลาย และประเทศคู่ค้ายกเลิกล็อกดาวน์ ซึ่งผู้ประกอบการต้องหาช่องทางที่มีศักยภาพในการเข้าสู่ตลาด ทำให้ไทยมีโอกาสที่จะฟื้นส่งอออกไทยได้ในเดือนที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ตามทางศูนย์ฯยังคงคาดการณ์ส่งออกไทยภาพรวมปีนี้จะติดลบที่ 7%”

หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3574 วันที่ 14-16 พฤษภาคม 2563