จี้ผู้ว่าฯ บีบโรงงานสกัดรับซื้อปาล์ม18%

วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขอให้พิจารณาควบคุมดูแลกำหนดมาตรการบังคับให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มมีการปฎิบัติตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงปัจจุบันราคารับซื้อปาล์มทะลายได้ตกต่ำลงมาในระดับราคา 2.70-2.80 บาทต่อกิโลกรัมโดยเฉลี่ย ทั้งที่ราคาน้ำมันดิบ (ซีพีโอ) ที่โรงงานสกัดขายได้ไม่ต่ำกว่า 19 บาทต่อกิโลกรัม โดยเฉลี่ย

“จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วจะเห็นว่าโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบน้ำมันแยกที่ใช้ปาล์มทะลายสกัดไม่ได้คุณภาพที่18% ตามประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ได้เรียกร้องราคา แต่ให้ทำตรามประกาศ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ดังนั้นไม่ว่าราคาจะขึ้นลงชาวสวนรับได้ แต่ถ้าไม่ได้คุณภาพจะยึดหรือคัดทิ้งก็ได้ ชาวสวนพร้อมปฎิบัติตามเงื่อนไข”

นายสิทธิพร กล่าวอีกว่า หากโรงงานรับซื้อปาล์ม18% ลองนำน้ำมันดิบมาคำนวณอยู่ที่ 19 บาท/กิโลกรัม ตามโครงสร้างราคาน้ำมันปาล์มที่เป็นธรรม โรงงานสกัดจะต้องรับซื้อผลปาล์มที่ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม แต่ขณะนี้โรงงานรับซื้อแค่ 2.80-3 บาทต่อกิโลกรัม  ราคาไม่ตรงกับความเป็นจริง ดังนั้นขอให้เรียกร้องให้โรงงานรับซื้อปาล์มน้ำมันไม่ต่ำ 18% ในราคาที่เป็นธรรม

สอดคล้องกับ ดต.ดร.ณภัคธร ชัยสงคราม นายกสมาคมการค้าลานเทปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ราคาปาล์มตกต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำโมเดลให้โรงสกัดรับซื้อน้ำมันปาล์ม18% อยากให้ทำอย่างต่อเนื่อง ช่วงนี้เกษตรกรบ่นมาก อยากให้หน่วยงานรัฐช่วยดูแลหน่อย การที่จะรวมตัวค่อนข้างลำบากต้องใข้ตัวแทนยื่นหนังสือ พยายามให้สื่อถึงรัฐบาลผลผลิตไม่ได้มาก สต็อกก็มีน้อยแค่ 1.8 แสนตัน ราคาก็เขยิบขึ้นมาหน่อย ปัจจุบันโรงงานรับซื้ออยู่ที่ 3.10 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนลานเทจะซื้อต่ำมานิดหนึ่งประมาณ 30 สตางค์ จะมีค่าขนส่ง ค่าแรงงาน และอื่นๆ  ซึ่งเกษตรกรมีความเดือดร้อนจริง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รับปากว่าจะเรียกผู้มีส่วนได้เสียมาประชุมหารือกันในสัปดาห์หน้า

แนบประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม