ดีอีเอสเปิดแอพ"ไทยชนะ"สู้โควิดชวนปชช.เช็กอินร้านค้า

14 พ.ค. 2563 | 08:32 น.

"ดีอีเอส"เปิดตัวแอพ“ไทยชนะ” สู้โควิดชวนปชช.เช็กอินตรวจสอบร้านค้า ตาม 5 มาตรการ ยันไม่ละเมิดสิทธิ เป็นข้อมูลลับทางการแพทย์

นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เผยว่า  ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีการทำแอพพลิเคชัน ชื่อ" ไทยชนะ "  โดยจะทำหน้าที่จัดการดูแลเรื่องมาตรการ 5 ข้อ ของศบค. โดยเริ่มต้นผู้ประกอบการ หรือร้านค้าจะต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์  เพื่อให้ได้คิวอาร์โค้ดมาติดที่หน้าร้าน  และเมื่อประชาชนมาใช้บริการจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ด  ถือเป็นการเช็กอิน และลงทะเบียนข้อมูลไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 

 โดยระบบของแอพพลิเคชัน ประชาชนจะทราบปริมาณความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในร้านค้านั้นๆ  สามารถตัดสินใจว่าจะใช้บริการหรือไปร้านอื่น และควรจะเช็กเอาท์ออก เมื่อออกจากร้านทุกครั้ง  โดยเมื่อเช็กอินแล้วข้อมูลจะถูกส่งไปที่กรมควบคุมโรค เพื่อสามารถติดตามตัวผู้ใช้บริการที่ไปร้านค้าที่หากเกิดเป็นพื้นที่เสี่ยง  จะมีข้อความส่งไปยังโทรศัพท์มือถือ ให้สามารถไปรับบริการตรวจฟรีได้  จะเป็นการช่วยลดเวลาและงบประมาณในการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยง

ดีอีเอสเปิดแอพ"ไทยชนะ"สู้โควิดชวนปชช.เช็กอินร้านค้า

ซึ่งข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับทั้งหมด ไม่มีความซับซ้อนยุ่งยากอะไรในการใช้งาน นอกจากนี้ ระบบจะกำหนดให้ประชาชนตรวจสอบผู้ประกอบการว่าปฏิบัติตามมาตรการ 5 ข้อของศบค.หรือไม่ และจะมีการให้คะแนนเรทติ้ง ถือเป็นผลดีของผู้ประกอบการที่จะเรียกเรตติ้งได้ หากปฏิบัติตามทุกข้อ และยังถือเป็นความปลอดภัยของผู้ใช้บริการด้วย

"ทุกกิจการที่ศบค.ประกาศผ่อนคลาย สามารถไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ได้  ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านขนาดใหญ่  ร้านดัง หรือร้านรถเข็นริมทาง เราไม่ได้เลือกขนาด แต่เลือกตามการผ่อนปรน   แต่หากร้านไหนไม่ใช้วิธีนี้จะต้องมีสมุดจดและรับหน้าที่ลงทะเบียนให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ  ซึ่งวิธีนี้จะวุ่นวายและยุ่งยาก เพราะถ้าหากร้านนั้นกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงจะต้องตามเช็กข้อมูลผู้ใช้บริการกันทั้งวัน   และไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่   แต่หากใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ด  จะสามารถจำกัดบุคคลกลุ่มเสี่ยงได้เป็นช่วงเวลา ซึ่งจะลดความวุ่นวายลงได้ 

ดีอีเอสเปิดแอพ"ไทยชนะ"สู้โควิดชวนปชช.เช็กอินร้านค้า

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นการละเมิดสิทธิ เพราะเป็นเรื่องการควบคุมโรค เรื่องของแพทย์หมือนตอนเราไปโรงพยาบาล  เราต้องบอกข้อมูลกับแพทย์และข้อมูลนั้นจะเก็บไว้ในกรมควบคุมโรค นำมาใช้ด้วยเหตุผลในการควบคุมโรคเท่านั้น จะใช้ในกิจกรรมอื่นไม่ได้  ซึ่งช่วงบ่ายของวันที่ 15 พ.ค.จะเริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียน โดยในช่วงแรกอาจติดขัดกันบ้าง  เป็นเรื่องปกติของการปรับตัว ถ้าเราช่วยกันประเทศไทยเราชนะแน่นอน"นพ.พลวรรธน์กล่าวทิ้งท้าย