คลื่นใต้น้ำ พปชร. ยังระอุ!

14 พ.ค. 2563 | 01:46 น.

คอลัมน์รักแผ่นดิน โดยคนไท

 

แม้ว่าหน้าฉาก ทั้ง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ และ อุตตม สาวนายน รมว.คลัง หัวหน้าพรรค จะประสานเสียงว่า ศึกเขย่าโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค เพื่อก้าวไปสู่การเขย่าเก้าอี้คณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐจะยุติลงแล้ว หลัง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้มีบารมีนอกพรรคตัวจริง ออกโรงหย่าศึก ให้ทุกคนมุ่งทำงานแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของชาติ พร้อมกับย้ำ “ยังไม่มีการปรับ ครม.”

แต่เป็นการ “พักรบ” ชั่วคราว ระหว่าง บิ๊กป้อม กับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่มี “สงคราม ตัวแทน” ประลองกำลังในการยึดอำนาจในการบริหารพรรคพลังประชารัฐ มาตั้งแต่การก่อเกิดของพรรคนี้ แม้ว่า บิ๊กป้อมจะมีกำลังมากกว่า แต่ ”ภาพลักษณ์” ในการก้าวขึ้นมากุมอำนาจในการบริหารยังมีปัญหา เพราะถ้าขึ้นมาออกโรงอยู่ข้างหน้าตัวจริง พรรคพลังประชารัฐจะกลายเป็น “พรรคทหาร” ไปโดยปริยาย

ระหว่างนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวของสงครามตัวแทน ที่แกนนำพรรคซึ่ง “ยุ” บิ๊กป้อมยึดพรรค ทั้ง ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ-สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง- วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล- สุชาติ ชมกลิ่น ประธาน ส.ส.พรรค อนุชา นาคาศัย ส.ส.ผู้คาดหวังอยากเป็นรัฐมนตรี และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว ที่จะเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค เพื่อหวังการก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในรัฐบาล

ในขณะที่ปีกของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ส่ง “4 กุมาร “ อันได้แก่ อุตตม สาวนายน-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์-สุวิทย์ เมษินทรีย์-กอบศักดิ์ ภูตระกูล ก็เคลื่อนไหวในการปกป้องตำแหน่งในพรรค เพื่อเป็นหลักประกันตำแหน่งในรัฐบาล 

จึงมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในพรรคพลังประชารัฐ มีการรวมกลุ่มก๊วน เช็คชื่อ-อัด ”กล้วย” ชุดใหญ่ ให้กับบรรดา ส.ส.-กรรมการบริหารพรรค แม้ว่าจะเป็นช่วงสภาปิดก็ตาม เพราะทั้งสองปีก ยังเคลื่อนไหวไม่หยุด

จึงเป็นโอกาส “อันงาม” ของ ส.ส.พลังประชารัฐ ที่ไม่มีโอกาสรับเงินเยียวยาในสถานการณ์โควิด-19 แต่กลับได้รับ “กล้วย” กันอิ่มหมีพีมัน

คลื่นใต้น้ำในพรรคประชารัฐ ที่ยังเคลื่อนไหวกันอยู่ แม้ผู้มีบารมีอย่าง “ลุงตู่” จะมาห้ามทัพให้สงบศึกกัน “ชั่วคราว” จะจบอย่างไร และกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน เป็นคำถามที่คอการเมือง ถามถึงเสมอ

นักวิเคราะห์ทางการเมือง มองตรงกันว่า ท้ายที่สุดจะจบกันในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐที่ถูกเลื่อนไปเพราะสถานการณ์โควิด ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดประชุมได้ในราวปลายเดือนมิถุนายน หรือเดือนกรกฎาคม เมื่อสถานการณ์โควิด ดีขึ้น และกฎหมายสำคัญ หลายฉบับผ่านสภาฯเดือนมิถุนายนไปแล้ว

แต่ฟันธงตรงกันว่า งานนี้ไม่มี ”หัก” เพราะถ้าหัก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ดังนั้นเมื่อถึงเวลา ที่เหมาะสม ผู้มีบารมีอย่าง “ลุงตู่” ต้องลงมาจัดการเรื่องนี้เอง และจะสงบศึกไปอีกครั้ง...

ระหว่างนี้ก็ปล่อยให้คลื่นใต้น้ำประลองกำลังกันไป