"สนธิรัตน์" เล็งดัน บี 10 เป็น น้ำมันเกรดมาตรฐาน 1 ต.ค.

นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 กรมธุรกิจพลังงานจะประกาศให้ "น้ำมันดีเซล บี10" เป็นหนึ่งในน้ำมันเกรดมาตรฐานเพื่อสร้างสมดุลปาล์มน้ำมันในประเทศทั้งระบบ ราคาปาล์มมีเสถียรภาพ รวมทั้งช่วยดูดซับ "น้ำมันปาล์มดิบ" (CPO)ในไทย  โดยน้ำมันดีเซล บี7 จะเป็นน้ำมันทางเลือกจะยังไม่มีการยกเลิก เนื่องจากยังมีรถรุ่นเก่าบางรุ่นที่ยังใช้บี 10 ไม่ได้

                ทั้งนี้  เดิมทีกระทรวงมีแผนที่จะประกาศให้บี 10 เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 63 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากต้องให้เวลากับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนป้ายน้ำมันดีเซลใหม่ และเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น  โดยจะมีการเปลี่ยนป้าย บี 10 เป็นดีเซล

                ขณะที่น้ำมันดีเซลจะปรับเป็น "น้ำมันไบโอดีเซลบี 7" เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคต่อไป อีกทั้งยังเชื่อว่าในอนาคตจะส่งผลให้เกิดการใช้บี 100 เพิ่มขึ้นเป็น 6-7 ล้านลิตรต่อวันได้  และจะช่วยดูดซับ CPO ได้ตามแผนที่วางไว้ 

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)รับซื้อ CPO เพิ่มเติมในสัดส่วนที่เหลืออีก 3.7 หมื่นตันเพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำหนดให้ กฟผ.รับซื้อรวม 2 แสนตัน

                และล่าสุดได้มอบหมายมอบให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไปดำเนินการหากลไกในการดูดซับสต็อกบี 100 ล่วงหน้า เพื่อนำไปใช้ในการผลิต บี10 ตามนโยบายส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของกระทรวงพลังงานที่ต้องการรักษาเสถียรภาพของปาล์มน้ำมัน 

อ่านข่าว “สนธิรัตน์” มอบ กฟผ. เร่งซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่เหลือ 3.7 หมื่นตัน

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 กรมธุรกิจพลังงานจะเร่งหารือร่วมกับผู้ผลิตบี 100 เพื่อพิจารณาแนวทางการใช้กลไกลบล็อคเชน (Blockchain) เข้ามาช่วยทำให้ราคา CPO ที่จะซื้อเกิดความสมดุล ลดการกดราคากลาง และเป็นการปรับลดวงจรลักลอบการนำเข้า โดยคาดว่าหากผู้ผลิตเห็นพ้องต้องกันว่าจะใช้กลไกลดังกล่าว ก็สามารถเริ่มทดลองระบบดังกล่าวนี้ได้ในเดือนพฤษภาคมนี้

                ด้านโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนั้น  คาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะสามารถประกาศเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าระยะแรกหรือควิกวิน (Quick Win) ได้  100 เมกะวัตต์ภายในเดือนมิถุนายนนี้  โดยปัจจัยสำคัญที่ยังดำเนินการไม่ได้  เพราะจะต้องรอกระบวนการให้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุง) ผ่านความเห็นจาก ครม. ก่อน  ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่ ครม.ภายใน 2 สัปดาห์นี้