New Norm ใหม่ท่องเที่ยว  ททท.ดึง 10 ธุรกิจเข้ามาตรฐานSHA

14 พ.ค. 2563 | 04:35 น.

ททท.เดินหน้า New Norm สร้างความมั่นใจในแบรนด์การท่องเที่ยวใหม่ ดึง 10 ประเภทธุรกิจเกี่ยวเนื่องท่องเที่ยวทั้งระบบ เข้าร่วมโครงการ SHA โดยจะเปิดระบบให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเช็กลิสต์มาตรฐานที่จะแตกต่างกันตามประเภทของธุรกิจ ได้ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.นี้ คาดพร้อมเปิดตัวบริการได้ภายในเดือนนี้ รับรัฐบาลทยอยคลายล็อกดาวน์สถานประกอบการ  

การที่รัฐบาลในหลายประเทศรวมถึงไทย เริ่มทยอยคลายล็อกดาวน์ในบางกิจกรรม ส่งผลให้ภายในไม่เกินสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมจะเปิดตัว โครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่การให้บริการด้านการท่องเที่ยวของไทย ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงสาธารณสุข

 

โดยโครงการนี้จัดว่าเป็น New Norm กับการสร้างความมั่นใจในแบรนด์การท่องเที่ยวใหม่ ในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ภายใต้การยึดหลักแนวทางการดำเนินงานและมาตรการป้องกันความเสี่ยงเรื่องไวรัสโควิด-19 สำหรับสถานประกอบการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยแก่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทางและภายหลังกลับประเทศ

New Norm ใหม่ท่องเที่ยว  ททท.ดึง 10 ธุรกิจเข้ามาตรฐานSHA

 

ทั้งนี้มาตรฐาน SHA จะกำหนดแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยกิน พัก เที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ครอบคลุม 10 ประเภทกิจการ ได้แก่ ภัตตาคาร/ร้านอาหาร, โรงแรมและที่พัก, นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว, ยานพาหนะ, บริษัทนำเที่ยว, สปา/นวดเพื่อสุขภาพและสถานเสริมความงาม, ห้างสรรพสินค้า, สนามกอล์ฟหรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ, โรงมหรสพ การจัดให้มีมหรสพ การแสดงดนตรี และร้านค้าของที่ระลึก และร้านค้าอื่นๆ

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่าแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานนี้ จะแตกต่างกันตามประเภทของกิจการ ซึ่งจะมีลิสต์แนวทางไว้ให้ ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม โดยททท.จะเปิดระบบให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการมาลงทะเบียนและเช็กลิสต์มาตรฐาน ผ่าน www.thailandsha.com ได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมนี้ จากนั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ถ้าผ่านมาตรฐาน ททท.ก็จะมอบตราสัญลักษณ์ SHA

ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA จะได้รับการโปรโมตจากททท.ทั้งในไทยและต่างประเทศ ถึงการให้บริการที่มีมาตรฐานด้านสุขอนามัยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด นอกจากนี้ยังมีการเปิดระบบให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐานนี้ เขียนรีวิวในแบบดิจิทัล เพื่อวัดความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและเป็นการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของสถานประกอบการหลังได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ไปแล้ว

 

การจัดทำมาตรฐานนี้ททท.ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกรมอนามัย กรมควบคุมโรค องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว รวมถึงสมาคมต่างๆ กว่า 20 สมาคม อาทิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย(สทท.), สมาคมภัตตาคารไทย, สมาคมผู้ค้าปลีกไทย, สมาคมห้างสรรพสินค้า, สมาคมสปาไทย, สมาคมโรงแรมไทย, สมาคมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์, สมาคมเรือไทย

 

โดยสมาคมต่างๆ เหล่านี้ได้เข้าร่วมประชุมกับททท.และรับทราบข้อมูลมาตรฐาน SHA เพื่อนำไปชี้แจงกับสมาชิก ดังนั้นหลังการเปิดระบบก็เชื่อว่าสถานประกอบการก็คงพอมีความเข้าใจบ้างแล้วในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามการให้ตราสัญลักษณ์ SHA จะเริ่มจากสถานประกอบการที่รัฐบาลไม่ได้สั่งปิดกิจการ เช่น ธุรกิจโรงแรมก็มีส่วนที่ยังเปิดให้บริการอยู่ รวมไปถึงธุรกิจที่รัฐบาลจะทยอยประกาศที่จะคลายล็อกดาวน์ อาทิ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ศูนย์การค้า คอมมิวนิตีมอลล์ สถานเสริมความงาม

เพราะมองว่าท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ต้องเริ่มที่ในประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งสถานประกอบการที่มีมาตรฐาน ก็จะทำให้คนไทยมีความมั่นใจในการใช้จ่ายและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หลังรัฐบาลมีการส่งสัญญาณให้เที่ยวได้ ซึ่งก็มองว่าตลาดในประเทศจะกลับมาได้ ถ้านักท่องเที่ยวมั่นใจในสถานประกอบการ และมองว่าที่ผ่านมามีคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศร่วม 10 ล้านคนต่อปี ในปีนี้น่าจะกระตุ้นให้เที่ยวในประเทศได้ ส่วนตลาดต่างประเทศก็คงต้องใช้เวลา เพราะต้องรอการผ่อนคลายมาตรการจากรัฐบาลก่อน

 

การจัดทำมาตรฐานด้านความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ขณะนี้จะเห็นธุรกิจบริการรายใหญ่ เช่น เชนโรงแรมต่างๆ ศูนย์การค้าระดับชั้นนำ ต่างออกมาตรฐานของตัวเองออกมาเพื่อรองรับการเปิดให้บริการ ซึ่งต้องยอมรับว่ามาตรฐานสูงมาก แต่สำหรับมาตรฐาน SHA จะเป็นมาตรฐานภาพรวมที่กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ธุรกิจในทุกระดับสามารถปรับปรุงการให้บริการได้อย่างมีความปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่สร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้ในระดับมาตรฐานสากลนางสาวฐาปนีย์ กล่าวทิ้งท้าย

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,574 วันที่ 14-16 พฤษภาคม 2563