ยูนิเซฟ ส่งต่อเงินบริจาค 215 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยเหลือเด็กๆ

13 พ.ค. 2563 | 02:46 น.

ยูนิเซฟ รายงาน เงินระดมทุนทั่วโลก กว่า 215 ล้านเหรีญสหรัฐ ส่งกระจายความช่วยเหลือ เด็กๆ และครอบครัว พร้อมประกาศระดมทุนเพิ่มอีก 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 52,000 ล้านบาท จากเดิมที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคมที่ 651.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ

จากที่องค์การยูนิเซฟ ได้ประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคม เพื่อระดมเงินทุน  651.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปให้ความช่วยเหลือด็กๆ และครอบครัว ทั่วโลก ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด -19 ล่าสุด ยูนิเซฟได้ออกประกาศระดมทุนเพิ่มเติม อีก  1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 52,000 ล้านบาท เพื่อรองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ 

 

ยูนิเซฟ ประเทศไทย จึงได้ออกแคมเปญ “ช่วยจากบ้าน ร่วมต้านโควิด” พร้อมจัดทำสปอตระดมทุนความยาว 30 วินาที ผ่านโทรทัศน์ และสื่อสังคมออนไลน์ โดยมี Friends of UNICEF เช่น นิชคุณ หรเวชกุล พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และศิลปินชื่อดังอีกจำนวนมากร่วมสนับสนุนโครงการ โดยผู้ต้องการบริจาค: พิมพ์ COVID แล้วส่ง SMS มาที่ 4712225 เพื่อบริจาค 100 บาท

 

ยูนิเซฟ ส่งต่อเงินบริจาค 215 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยเหลือเด็กๆ
 

สำหรับทั่วโลก ยูนิเซฟสามารถระดมเงินบริจาคได้แล้ว 215 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ยูนิเซฟได้เข้าถึงเด็กและครอบครัว ดังนี้

- ประชาชนกว่า 1.67 พันล้านคนได้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ทั้งการล้างมืออย่างถูกวิธี และการปฏิบัติขณะไอ จาม


- ยูนิเซฟได้จัดส่งสิ่งช่วยเหลือจำเป็นหลายล้านชิ้นเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดไปแล้วในทั้งหมด 52 ประเทศทั่วโลก ประกอบด้วย ถุงมือ 6.6 ล้านชิ้น หน้ากากอนามัย 1.3 ล้านชิ้น หน้ากากชนิด N95 428,000 ชิ้น ชุดกาวน์ 291,000 ชิ้น แว่นตาป้องกัน 13,000 ชิ้น หน้ากากเฟซชีลด์ 63,000 ชิ้น เครื่องช่วยหายใจ 200 เครื่อง และชุดน้ำยาตรวจโรคโควิด-19 34,500 ชุด


- เด็ก ๆ ราว 80 ล้านคน ได้รับการสนับสนุนเพื่อการเรียนทางไกลหรือเรียนจากที่บ้าน
- เด็กและสตรีกว่า 10.9 ล้านคน ได้รับบริการทางสุขภาพในสถานพยาบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากยูนิเซฟ
- เด็ก ครอบครัว และผู้ดูแลกว่า 830,000 คน ได้รับการดูแลจิตใจในชุมชน

 

ยูนิเซฟ ส่งต่อเงินบริจาค 215 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยเหลือเด็กๆ

 

ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ยูนิเซฟได้จัดส่งสิ่งช่วยเหลือจำเป็นหลายสิบล้านชิ้นไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น เครื่องใช้เพื่อสุขอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุดป้องกันเชื้อโรค เพื่อปกป้องเด็ก ครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ยูนิเซฟได้ร่วมกับพันธมิตรแจกจ่ายสบู่และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือจำนวน 150,000 ชิ้นให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีความเปราะบาง รวมถึง เด็กในชุมชนแออัด เด็กที่ใช้ชีวิตบนท้องถนน เด็กที่อาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์/สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ/และสถานพัฒนาและฟื้นฟูภายใต้กรมกิจการเด็กและเยาวชน ศูนย์การเรียนรู้ของเด็กข้ามชาติ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ
 

สำหรับประเทศไทย องค์การยูนิเซฟได้ร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานสหประชาชาติอื่นๆ ในการต่อสู้กับโควิด-19 ในด้านต่าง ๆ เช่น การร่วมมือกับกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย จัดส่งสบู่และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกว่า 150,000 ชิ้นให้แก่เด็กและเยาวชนที่เปราะบางทั่วประเทศ การส่งมอบน้ำยาตรวจโควิด-19 มูลค่า 5 ล้านบาทแก่สถาบันบำราศนราดูร การเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองและการดูแลจิตใจตนเองแก่เด็กและครอบครัวผ่านสื่อต่าง ๆ

 

ยูนิเซฟ ส่งต่อเงินบริจาค 215 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยเหลือเด็กๆ

 

การสนับสนุนและเผยแพร่ข้อมูลด้านสุขภาพและสุขอนามัยแก่ชุมชนแรงงานข้ามชาติใน 22 จังหวัด พร้อมทั้งมีการสำรวจและวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชน รวมถึงกลุ่มที่เปราะบางที่สุด จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองทางสังคมแก่กลุ่มประชากรที่เปราะบางที่สุด และจัดซื้อเครื่องมือวัดอุณหภูมิแบบอินฟาเรดแก่โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและจัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับโรงเรียนเพื่อป้องกันโควิด-19 เพื่อเตรียมการเปิดภาคเรียน

 

ข้อมูลล่าสุดจากยูนิเซฟและองค์การอนามัยโลกระบุว่า มีประชากรโลกเพียง 3 ใน 5 คนเท่านั้น ที่เข้าถึงสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการล้างมือ เช่น น้ำ สบู่ หรือ พื้นที่ ๆ สามารถล้างมือได้

 

การประมาณการล่าสุด ชี้ให้เห็นว่า 40% ของประชากรโลก หรือราว 3 พันล้านคน ไม่มีน้ำ สบู่และที่ล้างมือที่บ้าน โดยในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด อัตรานี้สูงถึงเกือบละ 75% โรงเรียนทั่วโลก 47% ไม่มีน้ำ และสบู่ ให้เด็กๆ ได้ล้างมือ ส่งผลกระทบต่อเด็กวัยเรียนกว่า 900 ล้านคน ในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โรงเรียนเกินครึ่งไม่มีพื้นที่ให้นักเรียนล้างมือได้เลย และ 1 ใน 6 ของสถานพยาบาลทั่วโลกไม่มีบริการด้านสุขอนามัย ซึ่งรวมถึงการไม่มีน้ำและสบู่สำหรับผู้ป่วยและผู้มารับบริการได้ล้างมือ