BANPU ไตรมาสแรกกำไรสุทธิ1,713 ล้านบาท โตพุ่ง 89%

12 พ.ค. 2563 | 05:08 น.

BANPU ไตรมาส1/63 กำไรสุทธิ1,713 ล้านบาท โตพุ่ง 89% อานิสงค์จากบาทอ่อนค่า ดันราคาหุ้นเช้านี้พุ่ง 14% แตะที่ราคา 6.35 บาท  

 

วันนี้ ( 12 พ.ค. )ราคาหุ้นบมจ.บ้านปู ( BANPU )เมื่อเวลา 11.42 น. ยืนที่ระดับ 6.35 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.80 บาทหรือ +14.41% จากราคาเมื่อวาน(11 พ.ค.) ซึ่งปิดที่  5.55 บาท 

นางสมฤดี  ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.บ้านปู ( BANPU)  เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/63 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,712.67 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ( YoY) ที่มีกำไรสุทธิ 905.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 89.22% โดยมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 112 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบกับ EBITDA จากธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 485% ขณะที่รายได้ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และส่วนแบ่งรายได้ไฟฟ้าชะลอตัวลง

ในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัท ฯ มีรายได้จากการขายรวมจำนวน 633 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงจำนวน 66 ล้านดอลลาร์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และรายได้จากธุรกิจถ่านหินลดลง 51 ล้านดอลลาร์ แม้ปริมาณขายถ่านหินเพิ่มขึ้นป็น 8.8 ล้านตัน แต่ราคาขายลดลง 17% เหลือ 59.58 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่รายได้จากธุรกิจก๊าซลดลง 18 ล้านดอลลาร์ แม้มีปริมาณขายเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายเฉลี่ยลดลงเช่นกัน และรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้น 2 ล้านดอลลาร์

บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ในไตรมาส 1 ปี 2563 คิดเป็น 134 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อนหน้า EBITDA จากธุรกิจถ่านหิน 77 ล้านดอลลาร์ (ลดลง 29%) EBITDA จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 1.4 ล้านดอลลาร์ (ลดลง89%) และEBITDA จากธุรกิจไฟฟ้า 55 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 485%)
 

 

อย่างไรก็ดี  BANPU รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส1/63 มีกำไรดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ โดยบทวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัสระบุ คาดการณ์ BANPU จะมีกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท จากงวดก่อนที่เผชิญภาวะขาดทุน 1.4 พันล้านบาท โดยรับผลบวกจากอัตราแลกเปลี่ยนตามทิศทางค่าเงินที่อ่อนค่า

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/63 ยังมีโอกาสมีแนวโน้มดีขึ้น แม้ว่าอาจจะเผชิญกับผลขาดทุนอยู่เล็กน้อยก็ตาม โดยคาดธุรกิจโรงไฟฟ้าน่าจะมีผลกำไรเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนความต้องการใช้ไฟฟ้าจะทำระดับสูงสุดของปื นอกจากนี้ราคาก๊าซในสหรัฐ(Henrry Hub)ที่ในปัจจุบันขึ้นมาอยู่เหนือ 2 เหรียญต่อล้านบีที่ยู จากงวดก่อนที่เคยลงไปที่ 1.5 เหรียญฯ น่าจะทำให้สถานการณ์ธุรกิจก๊าชคลับมาเท่าทุนได้ รวมถึงยังมีโอกาสบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนต่อเนื่อง พร้อมประเมินราคาตามปัจจัยพื้นฐานสิ้นปีที่ 63 ที่ 9.20 บาท แม้ว่าก่อนหน้านี้ราคาหุ้นจะปรับตัวลงซึ่งเชื่อว่าได้สะท้อนปัจจัยกระทบต่างๆ จนเริ่มเห็น Downside ที่จำกัดมากขึ้น