ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บ.)ไทยพาณิชย์ระบุว่าเงินบาท แม้จะผันผวนมากขึ้น แต่ก็เคลื่อนไหวในกรอบระหว่างวันอยู่ เชื่อว่าส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะสภาพคล่องในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ เมื่อมีแรงซื้อขายจากนักลงทุนต่างชาติตลาดก็เปลี่ยนทิศอย่างรวดเร็ว และเมื่อเข้าสู่ในช่วงหัวค่ำ ก็จะขยับตามทิศทางของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร (EUR) ทันที ในระยะถัดไปมองทิศทางของดอกเบี้ยและตลาดทุนจะเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดทิศอัตราแลกเปลี่ยน ถ้าบอนด์ยีลด์สหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นต่อเกิน 0.75% ก็อาจกดดันหุ้นให้พักฐาน ซึ่งจะหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาทได้
สำหรับช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินเริ่มจะไม่มีข่าวใหม่ หลังจากที่กว่า 90% ของบริษัทจดทะเบียนทั่ว สหรัฐประกาศรายงานผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสหนึ่งไปเป็นที่เรียบร้อย โดยดัชนี S&P 500 ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนในฝั่งยุโรปเจอแรงขายทำกำไรทันที ส่งผลให้ดัชนี Euro Stoxx 50 ปรับตัวลง 0.84%
ซึ่งภาพตลาดการเงินที่ "หยุดปรับตัวขึ้น" นี้เป็นปัจจัยหนุนให้ดอลลาร์ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ขณะเดียวกันบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีก็ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 0.71% (+3bps) บนความกังวลกับปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่จะเพิ่มมากขึ้นตามนโยบายการคลัง ขณะเดียวกันก็เริ่มที่จะลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด จะใช้นโยบาย "ดอกเบี้ยติดลบ" ก่อนที่จะมีการให้ความเห็นของทั้งนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด และคณะกรรมการนโยบายการเงินหลายท่านในช่วงสัปดาห์นี้