FETCO คาด ปีนี้ ตลาดหุ้นไทย แตะ 1,400 จุด

11 พ.ค. 2563 | 08:08 น.

FETCO คาด ดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,400 จุด แม้ระยะสั้นยังแกว่งตัว หลังนักลงทุนยังกังวลโควิด-19 ระบาดรอบสอง จี้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO)เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยในปี 2563 คาดจะอยู่ที่ 1,400 จุด หรือเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในช่วงปัจจุบัน แม้ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลจะมีมาตรการ Lock Down ทั้งประเทศอีก หากมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 เกิดขึ้นเป็นรอบที่สอง

 

อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนว่า การใช้ชีวิตแบบ New Normal จะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจมากน้อยเพียงใด และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะออกมาอย่างไร จากในปัจจุบันที่เป็นเพียงมาตรการเยียวยาจากผลกระทบเท่านั้น

 

FETCO คาด ปีนี้ ตลาดหุ้นไทย แตะ 1,400 จุด

อย่างไรก็ตาม มองว่า มีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่ความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวไปสู่ระดับ 969 จุด เหมือนในช่วงเดือนมีนาคม เพราะตลาดหุ้นไทยได้ตอบรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากไปมากพอแล้ว โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของตลาดหุ้นไทยลดลงไปแล้ว 3.2 ล้านล้านบาท

 

ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปรับลดลงกว่า 1 ล้านล้านบาท ทำให้นักวิเคราะห์หลายแห่งปรับลดคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ลง 30% ซึ่งจากนี้ไป ภาพรวมของผู้ติดเชื้อจะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น และมีปัจจัยหนุนจากที่หลายๆ ประเทศใช้เม็ดเงินในสัดส่วน 10-20% ของจีดีพี ช่วยเหลือเยียวยาจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ทั้งนี้วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 FETCO จะร่วมหารือกับบจ.และจะประชุมคณะกรรมการ FETCO ในวันที่ 14 พฤษภาคม เพื่อเตรียมนำเสนอมาตรการที่รัฐบาลควรจะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เบื้องต้นได้แก่ มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของภาคเอกชนที่มีกำลังซื้อ เช่น มาตรการที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ อย่าง ช้อปช่วยชาติ หรือ มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ

 

นอกจากนั้นยังมีช่องทางการระดมทุนจากภาครัฐ เช่น การเสนอขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) เพื่อนำเงินระดมทุนไปใช้จ่ายช่วยเหลือ

 

ขณะที่สถานะนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ขายสุทธิแล้ว 171,000 ล้านบาทนั้น แต่ไม่น่ากังวล เนื่องจากเป็นการขายตามเทคนิคของโปรแกรมซื้อขายของกองทุนต่างชาติ เพื่อบริหารจัดการของกองทุน คิดเป็นสัดส่วน 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% นั้นเป็นนักลงทุนที่มองปัจจัยพื้นฐาน ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในระยะยาว

 

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า เดือนกรกฎาคม 2563 อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (Neutral) เพิ่มขึ้น 42% มาอยู่ที่ระดับ 80.40 โดยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนรายบุคคล บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เพิ่มขึ้นอยู่ในโซนทรงตัว (Neutral) ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในโซนซบเซา

ด้านนางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยกล่าวว่า คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนพฤษภาคมนี้ อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% จากระดับปัจจุบันอยู่ที่ 0.75% จากปัจจัยหลักคืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มติดลบ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโลกที่ลดลง และการไหลออกสุทธิของกระแสเงินลงทุนต่างชาติ

 

FETCO คาด ปีนี้ ตลาดหุ้นไทย แตะ 1,400 จุด

 

ส่วนการออกตราสารหนี้เอกชน เริ่มฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากเริ่มมีการยื่นไฟลิ่งมากกว่าเดือนมีนาคมที่มีหุ้นกู้ครบกำหนดไถ่ถอน แต่ไม่มีการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อมาทดแทนวงเงินเดิม และมีหุ้นกู้บางส่วนที่มีการขอยืดระยะเวลาชำระหนี้

 

“สถานการณ์ขณะนี้ไม่น่ากังวล บรรยากาศเริ่มกลับเข้ามาระดมทุนและลงทุนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากช่วงสัปดาห์แรกเดือนพฤษภาคม 2563 ที่มีการเสนอขายหุ้นกู้ไปแล้วประมาณ 10,000 ล้านบาท และในอีก 2-3สัปดาห์ข้างหน้า จะมีหุ้นกู้ที่จะออกมาเสนอขายอีกวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท”