ฝรั่งเศสเตรียมผ่อนปรนล็อกดาวน์

11 พ.ค. 2563 | 04:29 น.

ฝรั่งเศสปรับยุทธศาสตร์รับมือกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ด้วยการผ่อนปรนล็อกดาวน์และใช้มาตรการแยกตัวผู้ป่วยแทน พร้อมทั้งเตรียม test kits ให้เพียงพอกับการตรวจผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ในฝรั่งเศส โดยรายงานในวันที่ 11 พ.ค.2563 รัฐบาลฝรั่งเศสจะเปลี่ยนยุทธศาตร์การรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 จากการใช้มาตรการล็อกดาวน์  ( lockdown )เป็นการใช้มาตรการแยกตัวผู้ป่วยแทน 


ดังนั้นจึงได้เน้นให้ความสำคัญของการมี test kits ปริมาณเพียงพอสำหรับการตรวจผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ ซึ่งยังคงคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 3,000 รายต่อวันตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. เป็นต้นไป  โดยรัฐบาลฝรั่งเศสได้เตรียมการให้มี test kits 7 แสนชุดต่อสัปดาห์ทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้พยายามดำเนินการให้ประชาชนทุกคนมีหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ โดยจะแจกจ่ายหน้ากากให้แก่ผู้ด้อยฐานะสัปดาห์ละ 5 ล้านชิ้นด้วย

 

ฝรั่งเศสเตรียมผ่อนปรนล็อกดาวน์
 

ส่วนกรณีการเปิดสนามบิน Orly ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และได้มีการตกลงกันเกี่ยวกับมาตรการทางสาธารณสุขกับประเทศในอียูและประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว ก็อาจพิจารณาให้สนามบิน Orly เปิดทำการได้ใหม่ในวันที่ 26 มิ.ย.2563 ตามคำขอของสายการบิน 9 บริษัท (เมื่อวันที่ 6 พ.ค.)


โดยขอให้สายการบินเสนอแผนการบินภายในวันที่ 15 มิ.ย. และแจ้งด้วยว่าจะไม่บังคับให้มีการเว้นระยะห่าง ระหว่างกัน 1 เมตร บนเครื่องบิน ซึ่งอาจมีเหตุผลเนื่องจากสายการบินหลายบริษัทแจ้งข้อกังวลว่าหากต้องเว้นที่นั่งให้ผู้โดยสารเพียงครึ่งหนึ่งก็จะไม่สามารถทำการบินได้เนื่องจากไม่คุ้มทุน หรืออาจต้องขึ้นราคาบัตรโดยสารเครื่องบินอีกเท่าหนึ่ง
 

สำหรับสถิติผู้ติดเชื้อในประเทศฝรั่งเศส ประจำวันที่ 10 พ.ค. 2563  (เวลา 14.00 น.) มียอดผู้ป่วยติดเชื้อจากการตรวจ Test PCR จำนวน 139,063 ราย (เพิ่มขึ้น 209 ราย) รักษาอยู่ที่ รพ. 22,569 ราย โดยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 253 ราย นับเป็นวันที่ 26 ติดต่อกันที่มีจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวที่ รพ. น้อยลงจากวันก่อนหน้า (45 ราย) และรักษาหายออกจาก รพ. แล้ว 56,217 ราย (เพิ่มขึ้น 179 ราย)


อาการหนัก 2,776 ราย โดยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย และนับเป็นวันที่ 32 ติดต่อกันที่ยอดรวมของผู้ป่วยอาการหนักลดลงจากวันก่อนหน้า (จำนวน 36 ราย) เสียชีวิตที่ รพ. 16,642 ราย (เพิ่มขึ้น 69 ราย) เสียชีวิตที่บ้านพักคนชราและที่ศูนย์การแพทย์สังคม (établissements médico-sociaux) 9,738 ราย (เพิ่มขึ้น 1 ราย) รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 26,380 ราย (เพิ่มขึ้น 70 ราย)