ลุ้นคลายล็อกดาวน์ มอเตอร์โชว์พร้อมลุย

11 พ.ค. 2563 | 03:30 น.

"กรังด์ปรีซ์" ผู้จัดมอเตอร์โชว์ลุ้นรัฐคลายล็อกดาวน์ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ลดลง

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า หลังจากตัดสินใจเลื่อนการจัดงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 ออกไปเป็นเดือนกรกฎาคม (13- 26 ก.ค.)เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่มีการต่ออายุการบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและมาตรการเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลาที่กำหนด รวมถึงมาตรการอื่นๆเพื่อยับยั้งโรค COVID-19 เช่น ห้ามชุมนุมคน งดเว้นการจัดงานแสดงสินค้า 


อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ต่อวันในประเทศไทยที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายการล็อกดาวน์ให้บางธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง 

 

ลุ้นคลายล็อกดาวน์ มอเตอร์โชว์พร้อมลุย
 

ในส่วนของบริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์และหากรัฐบาลอนุญาตให้เริ่มดำเนินการจัดงานแสดงสินค้าได้ บริษัทฯ ก็พร้อมจะเดินหน้าจัดงาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 โดยมีมาตรการตรวจคัดกรองผู้เข้าชมและมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มงวดเพื่อให้ความมั่นใจแก่ทุกฝ่าย

 

ลุ้นคลายล็อกดาวน์ มอเตอร์โชว์พร้อมลุย

 

“เดิมเรากำหนดจัดงานมอเตอร์โชว์ไว้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เมื่อจำเป็นต้องเลื่อนการจัดงานฯ ก็จะกระทบต่อการรับรู้รายได้ที่ต้องเลื่อนออกไปเป็นช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตามเรายังมั่นใจจะสามารถจัดงานมอเตอร์โชว์ได้ตามแผนงานและเราคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น ” 
 

ดร.ปราจิน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก ซึ่งถือป็นการแตกไลน์ธุรกิจครั้งสำคัญของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในอนาคตที่มีความมั่นคงและแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยบริษัทฯมั่นใจว่าธุรกิจใหม่นี้จะช่วยเพิ่มผลกำไร ได้อย่างสม่ำเสมอและลดความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้น

ลุ้นคลายล็อกดาวน์ มอเตอร์โชว์พร้อมลุย

 

สำหรับลงทุนดังกล่าว GPI เข้าลงทุนถือหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากเชื้อเพลิงขยะแปรรูป (RDF: Refuse Derived Fuel) ในจังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) 


ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งมีความคืบหน้าตามแผนงาน โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และได้รับ Adder หรือส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า  


หลังจากนั้นราคารับซื้อจะเป็นไปตามราคารับซื้อพื้นฐานและนโยบายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ทรูเอ็นเนอร์จีได้จัดเตรียมแหล่งขยะโดยทำสัญญากับเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์เพื่อรับกำจัดขยะด้วยวิธีคัดแยก มีอายุสัญญา 25 ปี (นับจาก 12 พฤศจิกายน 2558) ซึ่งจะเพิ่มความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าตลอดอายุสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้า