สำนักข่าวรอยเตอร์ และนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แถลงว่า มีเด็ก 3 คนในรัฐนิวยอร์ก เสียชีวิตจากหลอดเลือดโป่งพองผื่นคันและปัญหาหัวใจซึ่งเชื่อว่าความเป็นไปได้ว่าเป็นโรคแทรกซ้อนเชื่อมโยงจากการป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ถือว่าเป็นอีกพัฒนาการหนึ่งที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไวรัสจะระบาดใหญ่ในเด็ก จนถึงขณะนี้ มีเด็กอย่างน้อย 73 คน ในนิวยอร์ก มีอาการลักษณะคล้ายกับโรคคาวาซากิ(Kawasaki Disease) และอาการท็อกซิกช็อก(Toxic Shock Syndrome) กลุ่มอาการที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งประกอบด้วย อาการมีไข้ต่อเนื่อง ปวดท้อง มีผื่นคัน หรือระบบหัวใจและหลอดเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นสาเหตุให้เกิดอาการปริศนานี้
นายคูโอโมแถลงข่าวรายวันว่า เขามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับอาการป่วย ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับอาการท็อกซิกช็อก และคาวาซากิ เด็ก 3 คน ซึ่งรวมทั้งเด็กวัย 5 ขวบ หนึ่งคนเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจากอาการป่วยดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ตรวจพบว่าเด็กป่วยเป็นโควิด-19 ด้วย
นายคูโอโม ซึ่งกลายเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญระดับชาติในการนำรัฐนิวยอร์กต่อสู้กับวิกฤติไวรัส กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐ กำลังทบทวนกรณีคล้ายกันนี้กับเด็กอีก 73 คน ที่ป่วยโควิด-19 และมีอาการป่วยในลักษณะดังกล่าวด้วย ผู้ป่วยเด็กเหล่านี้ตรวจพบติดเชื้อไวรัส หรือแอนติบอดีต่อไวรัส แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการเมื่อถูกนำตัวส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ รัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ รัฐเพื่อนบ้าน เป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ รวมกันมีผู้เสียชีวิตเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนทั่วประเทศ ซึ่งสูงกว่า 78,000 คนแล้ว และ 2 รัฐนี้ ยังคงบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นที่สุด