แบงก์ชาติฟันธง พิษโควิดทุบท่องเที่ยว1-2 ปีถึงฟื้น 

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่าหลังได้จัดทำโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่าง ธปท. กับภาคธุรกิจ และหน่วยงานต่าง ๆ (Business Liaison Program) โดยมีการพูดคุยกับผู้ประกอบธุรกิจในสาขาต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ในปัจจุบันและแนวโน้มในระยะต่อไป ทั้งในระดับภาพรวมและระดับธุรกิจ ที่ครอบคลุม ธุรกิจขนาดย่อม กลางและขนาดใหญ่ ทั่วประเทศ

จากการวิเคราะห์พบว่า แนวโน้มธุรกิจ ไตรมาสแรกปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยมองว่า เศรษฐกิจไทยหดตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ และผู้ประกอบการ 50% คาดว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มแย่ลงในอีก 12 เดือนข้างหน้า ทั่วประเทศ
 

นอกจากนี้ความคิดเห็นของภาคธุรกิจท่องเที่ยวส่วนใหญ่มองว่าปรับตัวค่อนข้างยาก อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าธุรกิจการท่องเที่ยวจะกลับ มาได้เร็วสุดราวไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 แต่อาจใช้เวลาอีก 1-2 ปี กว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่เน้นการทำตลาดและ ให้บริการหลากหลายมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง

หลังจากธุรกิจท่องเที่ยว เช่นโรงแรม ได้หันมาทำปรับรูปแบบบริการ ให้มีความหลายหลาย เช่นการทำโรงแรมหันมาขายอาหารประเภท นำไปรับประทานที่บ้านที่ หรือดิลิเวอร์ลี แท็กซี่ หรือตุ๊กตุ๊ก หันมาส่งสินค้าแทนการส่งผู้โดยสาร

สอดคล้องกับนายวิชิต  ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า ประเมินว่าราวเดือนกรกฏาคม น่าจะมีเริ่มการเดินทางท่องเที่ยว แต่จะการเปิดรับนักท่องเที่ยวได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ประเทศไทยต้องปลอดภัยก่อนไม่มีการระบาด และประเทศที่จะมาเที่ยวเมืองไทยก็ต้องปลอดภัยด้วยเช่นกัน ซึ่งระยะแรกคาดว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวประเทศในเอเชียด้วยกัน และคาดว่าตลาดทัวร์จีนพร้อมเดินทางชาติแรก

“ส่วนรูปแบบการท่องเที่ยวก็จะเปลี่ยนไปเป็น New Normal มีข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งด้านความปลอดภัย การเว้นระยะห่างทางสังคม ทั้งบนเครื่องบิน รถท่องเที่ยว จากที่นั่งได้ 40 คนอาจจะรับแค่ 10 กว่าคน ร้านอาหาร ต้องจัดโต๊ะให้ห่างกันมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการเดินทางท่องเที่ยวสูงขึ้น  แต่เมื่อมีซัพพลายเป็นจำนวนมาก ต้นทุนรวมก็อาจจะลดลง” 

อีกทั้งการเดินทางจะเป็นลักษณะของการเดินทางเอง หรือเอฟไอที หรือกลุ่มเล็ก ๆ เป็นเครือญาติกัน มากกว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวกรุ๊ปใหญ่อย่างแต่ก่อน  เพราะคนไม่ยังไม่แน่ใจในเรื่องความปลอดภัย และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป นายวิชิตกล่าว 

ส่วนกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ธปท. วิเคราะห์ว่า มีการขายบนแพลทฟอร์มออนไลน์ และ Social media มากขึ้น รวมถึงการทำ Content marketing เพื่อส่งเสริมการขาย รวมถึงเปลี่ยนมาเน้นขายสินค้าที่มีความต้องการมากขึ้น เช่น เจลล้างมือ หน้ากาก อุปกรณ์ทำความสะอาด และอาหาร เป็นต้น รวมถึงการนำเสนอบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน หรือมารับสินค้าโดย ไม่ต้องลงจากรถ 

ทั้งนี้สำหรับธุรกิจค้าปลีก คาดว่าจะสามารถ ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างเร็ว ราว ไตรมาสที่ 4 ของปี25 63 จะเริ่มเห็นคนออกมาทำกิจกรรม นอกบ้านและจับจ่ายอย่างไร้กังวล  แต่การลงทุนเพื่อเปิดสาขาใหม่ในเมืองหลักอาจลดลง