อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังผวาอย่างหนักกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่โควิด-19 หลังได้บทเรียนจากการพึ่งพาฐานการผลิตในจีนเป็นหลักมายาวนาน ซึ่งขณะนี้ส่งผลให้การผลิตและเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกต้องหยุดชะงักลงและเห็นชัดว่าการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนี่งมากเกินไป จะเกิดความเสียหายในระยะยาวอย่างกรณีจีนเป็นต้น
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่น ของนายซินโซะ อาเบะ ได้เปิดตัวโครงการเงินอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมให้บริษัทย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังประเทศอื่น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจีนมากเกินไป
โครงการนี้มีวงเงินอุดหนุนราว 23,500 ล้านเยน และถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยจะมีการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัทเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ การเคลื่อนย้าย และการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน
โดยได้เริ่มขึ้นหลังจากภาคอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตจากการปิดโรงงานในประเทศจีน ข้อมูลของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่า การนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จากจีน คิดเป็น 36.9% ของการนำเข้าของญี่ปุ่นในปี 2562 ขณะที่การนำเข้าชิ้นส่วนโทรศัพท์จากจีน ก็คิดเป็น 85.5% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดีข้อมูลจาก กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ระบุว่า “ก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส มีบริษัทญี่ปุ่นที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ไปยังอาเซียนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นผลดีในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างญี่ปุ่นกับอาเซียน”
นอกจากโครงการเงินอุดหนุนดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นยังมีโครงการช่วยเหลืออีก 220,000 ล้านเยน เพื่อส่งเสริมการผลิตสินค้าที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าอย่างมากจากต่างประเทศ โดยเม็ดเงินดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดให้บริษัทญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตกลับเข้ามาในประเทศโดยเฉพาะบริษัทผลิตสินค้าจำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
โดยบริษัทเหล่านี้จะได้รับเงินอุดหนุน หากมาลงทุนเปิดโรงงานใหม่ หรือเพิ่มกำลังการผลิต โดยรัฐบาลจะอุดหนุนราว 2 ใน 3 ของเม็ดเงินลงทุนสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ และจะอุดหนุน 3 ใน 4 สำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งโครงการช่วยเหลือทั้ง 2 โครงการนั้นอยู่ในงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2563 รวม 25.69 ล้านล้านเยน