BTS-BEM กอดคอบวก รับคลายล็อกดาวน์

11 พ.ค. 2563 | 01:10 น.

ราคาหุ้น BTS-BEM กอดคอบวกคึกคัก รับผ่อนปรนมาตรการ Lockdown หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด -19 ในไทยชะลอลง ชี้อย่าคาดหวังผลการดำเนินงาน เพราะรับผลกระทบปิดเมืองเต็มๆ แต่ยังมีลุ้นรายได้พิเศษส่วนอื่นเสริม

ช่วงที่สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดรุนแรง โดยเฉพาะเดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา ต้องมีการปิดสถานที่เสี่ยง (Lockdown) รวมถึงทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) ส่งผลต่อกิจกรรมต่างๆ ต้องหยุดชะงัก รวมถึงการใช้บริการขนส่งสาธารณะที่ลดลง ทั้งบริการของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง เริ่มมีการผ่อนคลาย Lockdown ทำให้การเดินทางของผู้โดยสารกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

 

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลาย Lockdown บางส่วน ทำให้การเดินทางกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง โดยเฉพาะการโดยสารบนรถไฟฟ้าและทางด่วน ซึ่งมี 2 บริษัทที่ให้บริการคือ BTS และ BEM ทั้งนี้ ราคาหุ้นตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน-7 พฤษภาคม 2563 BTS ปรับเพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 4.50% ส่วน BEM ปรับเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.09% ขณะที่ผลการดำเนินงานของ BTS งวดไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีกำไรสุทธิ 2,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,271 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันปีก่อน และ BEM ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 5,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

นายนฤดม มุจจลินทร์กูล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า BTS ได้รับผลกระทบเชิงลบจากโควิด-19 โดยรายได้จากสื่อโฆษณาที่ลดลงจากบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) (VGI), บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) (U) จะชะลอตัวจากการปิดโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ แม้ว่าปีนี้จะมี Backlog รอรับรู้กว่า 5,000 ล้านบาทก็ตาม และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่ลดลง จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ลดลง 18-20%

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีรายได้จากส่วนธุรกิจบริหารการเดินรถ O&M ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วงห้าแยกลาดพร้าว-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจะเปิดอีก 4 สถานีถึงวัดพระศรีมหาธาตุในเดือนมิถุนายนนี้ โดยคาดว่า บริษัทจะมีกำไรปกติในไตรมาสนี้ทรงตัว อีกทั้งจะมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินของ Bayswater ให้กับกลุ่ม CPN มูลค่า 7,600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า BTS จะมีกำไรจากการขายที่ดินนี้มากกว่า 1,000 ล้านบาท

 

BTS-BEM  กอดคอบวก  รับคลายล็อกดาวน์

 

บริษัทจะได้รับผลกระทบหลายด้านจากการลงทุนในหลายธุรกิจ ดังนั้นยังถือว่า มีความเสี่ยงด้านผลการดำเนินงานในอนาคตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมามากกว่า 40% จากจุดต่ำสุดแล้ว จึงยังคงแนะนำถือบนราคาเป้าหมาย 12 บาท แม้ว่าราคาหุ้นของ BTS ได้สะท้อนปัจจัยลบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไปหมดแล้ว แต่ในอนาคตที่ยังไม่แน่นอน เพราะมีการเติบโตที่จำกัด และราคาหุ้นในปัจจุบันนั้นยังไม่น่าสนใจมากนัก

 

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า คาดว่า BEM จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2563 อยู่ที่ 467 ล้านบาท ลดลง 10% จากไตรมาสก่อน และลดลง 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากสถิติสำคัญในธุรกิจทางพิเศษ และธุรกิจรถไฟฟ้าลดลงจากนโยบาย Work From Home และมาตรการ Lockdown ที่เริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 ทำให้ธุรกิจทางด่วนมีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.23 ล้านคัน ลดลง 8.7% จากไตรมาสก่อน และลดลง 10.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ ธุรกิจรถไฟฟ้ามีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 332,000 คน ลดลง 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ ส่วนแบ่งรายได้จากเงินลงทุนที่หายไป หลังเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้จาก CKP และ TTW จากรายได้ตามสัดส่วนเงินลงทุน เป็นเงินปันผล

บล.ฟินันเซีย ไซรัสฯ ระบุว่า แนะนำซื้อBEM ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท จากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มอย่างรวดเร็วหลังผู้คนเริ่มกลับมาทำงาน แต่อย่าคาดหวังกับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2563 โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1 ลดลง 16% จากไตรมาสก่อน และลดลง 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นที่เพิ่มขึ้นจากให้บริการส่วนต่อขยายและผลกระทบจากโควิด

 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,573 วันที่ 10-13 พฤษภาคม 2563