ทีเอชเอเสนอตรงนายกฯฟื้นธุรกิจ-ปราบโรงแรมผิดก.ม.

วันนี้ (วันที่ 8 พฤษภาคม 2563) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังสมาคมโรงแรมไทย เพื่อรับฟังสถานการณ์ ความเดือดร้อน และข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการโรงแรมไทย ด้วยตัวเอง

    นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทยหรือทีเอชเอ เผยว่า จากการหารือร่วมกันในครั้งนี้ เห็นได้ชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีเข้าใจถึงปัญหาของผู้ประกอบการโรงแรมไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19เป็นอย่างดี

   ทั้งนี้ข้อเสนอจากสมาคมโรงแรมไทยเพื่อให้รัฐบาลพิจารณา จากสถานการณ์ที่ได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ดังนี้

1.กระตุ้นให้ธุรกิจกลับมาเร็วที่สุด
ㆍขอให้รัฐบาลจัดงบประมาณประชุมสัมมนาของภาครัฐโดยใช้โรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก
ㆍขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีการจัดประชุมสัมมนา และดูงานข้ามจังหวัด
ㆍขอให้มีมาตรการทางภาษีให้ธุรกิจเอกชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมสัมมนาไปลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. 2563-31 ธ.ค. 2564 (ขณะนี้การหักลดหย่อนภาษีได้ที่ 1.5 เท่า ระหว่าง 1 ม.ค. -31ธ.ค. 2563)
ㆍขอให้บุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไปหักลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลได้ 2 เท่า ในวงเงิน 30,000 บาทต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. 2563 - 31ธ.ค. 2564 โดยต้องใช้จ่ายผ่านโรงแรมที่ถูกต้องตามกฏหมาย

2.ขอให้รัฐบาลเข้มงวดกับโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ดังนี้
ㆍกระบวนการจับกุมของเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ โรงแรมทุกครั้ง ขอให้มีเจ้าพนักงาน พ.ร.บ ควบคุมอาคาร ร่วมเป็นพนักงานจับกุมอยู่ด้วย และดำเนินคดีทั้งการฝ่าฝืน พ.ร.บ โรงแรม และพ.ร.บ ควบคุมอาคาร โดยเสนอให้ลงโทษระงับใช้อาคารเนื่องจากนำอาคารมาใช้ผิดประเภท
ㆍแก้บทลงโทษให้รุนแรงขึ้น โทษปรับ การประกอบธุรกิจโรงแรมปัจจุบัน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับรายวันไม่เกินวันละ 10,000 บาท ขอแก้ไขเป็น ปรับ20,000 บาท ถึง 200,000 บาท ปรับรายวันเท่าเดิม

ㆍแก้บทลงโทษให้รุนแรงขึ้น โทษปรับ การประกอบธุรกิจโรงแรมปัจจุบัน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับรายวันไม่เกินวันละ 10,000 บาท ขอแก่ไขเป็น ปรับ20,000 บาท ถึง 200,000 บาท ปรับรายวันเท่าเดิม

3.ขอให้มีมาตรการทางภาษี สนับสนุนการลงทุน เพื่อพัฒนามาตรฐานของโรงแรมให้โรงแรมสามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนไปหักภาษีได้ 3 เท่า สำหรับการลงทุนตั้งแต่ 1 มี.ค. 2563 - 31 ธ.ค. 2564 ในเรื่องดังต่อไปนี้
ㆍการลงทุนในการซ่อมบำรุง ปรับปรุงอาคาร สถานที่ประกอบการ / การลงทุนในด้านสุขอนามัย และการหมุนเวียนของอากาศภายในอาคาร เพื่อป้องกันการแพร่
ระบาดของไวรัสโควิด-19 / การลงทุนซื้อเครื่องจักรต่างๆ รวมทั้งเครื่องจักรที่ช่วยประหยัดพลังงาน

4.ขอเลื่อนการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นปลายปี และขอส่วนลดในช่วงที่มีการปิดกิจการชั่วคราว

5.เรื่องการจ่ายเงินชุดเชยการว่างงานของสำนักงานประกันสังคมเป็นมาตรการที่ดีมาก แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการจ่ายเงินชดเชยการว่างงานจากการที่ผู้ประกอบการปิดกิจการชั่วคราว โดยที่เจ้าพนักงานให้เหตุผลว่าไม่สามารถวินิจฉัยได้ เนื่องจากแนวปฏิบัติจากส่วนกลางยังไม่ถูกกำหนดลงมา

6.การเปิดน่านฟ้า เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอให้ไม่ใช้มาตรการกักตัว 14 วัน แต่ให้มีมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของ
ประเทศไทย เช่น ให้มีการตรวจโควิด-19 และเป็น Negative ก่อนเดินทางเข้ามายังประเทศไทย

7.ขอให้จัดทำ Big Data สำหรับข้อมูลโรงแรมในประเทศทั้งหมด