สมคิด เร่งดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เข้าครม.สัปดาห์หน้า

08 พ.ค. 2563 | 06:17 น.

สมคิด เร่งดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนเข้าครม.สัปดาห์หน้า หวังทำฐานรากแข็งแกร่งสู้ Covid-19 รับอีก 3 เดือน คนไม่มีรายได้เลี้ยงชีพ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือมาตรการเยียวยาเกษตรกร ร่วมกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ธนาคาร ออมสิน สภาเกษตรกรแห่งชาติ และอื่นๆ เพื่อหาแนวทางในการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19

สมคิด เร่งดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เข้าครม.สัปดาห์หน้า

ทุกหน่วยงานจะต้องเร่งดำเนินการร่วมกันอย่างบูรณาการ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้ โดยเฉพาะใน 3 เดือนข้างหน้าที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบมากกว่าปัจจุบัน คนจะไม่มีรายได้เพียงพอในการดำรงชีพ จะทำให้เศรษฐกิจไตรมาส 2 จะชะลอตัวมากกว่าไตรมาส 1 ดังนั้นจึงต้องมีแผนในการรับมือเพื่อดูแลเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแกร่ง รองรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก

ทั้งนี้จะเสนอแผนดังกล่าวให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายงบประมาณภายใต้ พ.ร.ก.ให้กระทรวงการคลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท พิจารณาก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในสัปดาห์หน้า จากนั้นปลายเดือนพ.ค.นี้จะออกหลักเกณฑ์ทั้งหมดได้ ก่อนจะดำเนินการตามแผน เงินลงสู่ระบบได้ภายในมิ.ย.นี้เป็นต้นไป

สมคิด เร่งดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เข้าครม.สัปดาห์หน้า

“เราควรใช้จังหวะนี้ดูแลเศรษฐกิจในประเทศให้แข็งแกร่ง โดยเน้นที่ชุมชนระดับฐานราก โดยผู้จัดการสาขาธ.ก.ส.ทั่วประเทศจะต้องทำหน้าที่ติดตามโครงการของแต่ละชุมชนให้เกิดขึ้นให้ได้จริงและมีประสิทธิผล ถ้าได้ครึ่งหนึ่งของที่ช่วยเหลือไป ก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนวงเงินกู้ก้อนที่เหลือ 400,000 ล้านบาท จะนำไปดูแลทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม ไม่ได้ระบุว่าจะกัน 200,000 ล้านบาท ไว้ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังพ้นวิกฤตนี้ ส่วนนั้น ค่อยกลับมาคิดกันอีกครั้ง”

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธ.ก.ส. กล่าวว่า วิกฤต Covid-19 ทำให้มีแรงงานถูกเลิกจ้าง 7 ล้านราย ซึ่งส่วนนี้คาดว่าจะมีแรงงานกลับเข้าสู่ภาคการเกษตรประมาณ 4 ล้านรายและส่วนนี้จะทำการเกษตรถาวร 1.7 ล้านราย ฉะนั้นธ.ก.ส.จะเข้าไปดูแลกลุ่มนี้ให้มีความสามรถในการทำการเกษตรเพิ่มขึ้น

สมคิด เร่งดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เข้าครม.สัปดาห์หน้า

โดยเสนอของบจากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและธุรกิจชุมชนสร้างไทยวงเงิน 55,000 ล้านบาทในการส่งเสริมจูงใจให้เกษตรกรรายย่อยรุ่นใหม่เข้าสู่ระบบการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบ 300,000 ราย และเกษตรกรรายใหม่ 500,000 ราย พร้อมพัฒนาวิสาหกิจชุมชมรายใหม่ 16,000 แห่ง ซึ่งกลุ่มนี้จะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และสร้างสถาบันเกษตรกรอีก 1,255 แห่ง

ขณะเดียวกันธ.ก.ส.มีสินเชื่อรองรับวงเงิน 480,000 ล้านบาทไว้คอยสนับสนุนเกษตรกรที่จะกลับเข้าสู่ภาคการเกษตรในครั้งนี้ด้วย ประกอบด้วย สินเชื่อฉุกเฉิน 20,000 ล้านบาท สินเชื่อพอเพียงพอเพื่อเลี้ยงชีพ 10,000 ล้านบาท สินเชื่อ New Gen ฮักบ้านเกิด 60,000 ล้านบาท สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย 50,000 ล้านบาท สินเชื่อผู้ประกอบการเกษตร 40,000 ล้านบาท และสินเชื่อระยะสั้นสำหรับฤดูกาลใหม่(Jump Start Credit) 300,000 ล้านบาท

สมคิด เร่งดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เข้าครม.สัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตามในส่วนของสินเชื่อนั้น ธ.ก.ส.จะต้องขอเงินชดเชยจากภาครัฐ เนื่องจากเกษตรกรดังกล่าว เป็นเกษตรกรรายใหม่ อาจมีความเปราะบางในการทำการเกษตร ขณะเดียวกันก็จะเสนอให้รัฐบาลช่วยจ่ายเงินสมทบให้ภาคธุรกิจด้านการเกษตร ให้เร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงช่วยจ้างงานมากขึ้น