คลังสหรัฐเตรียมออกบอนด์ 20 ปีครั้งแรกในรอบ 4 ทศวรรษ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ดีดตัวแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) หลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า จะออกพันธบัตรอายุ 20 ปีงวดใหม่เพื่อนำรายได้มาสนับสนุนมาตรการของรัฐบาลในการเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 00.05 น. วันนี้ (7 พ.ค.) ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 0.727% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.428% ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะทำการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี วงเงิน 20,000 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 20 พ.ค. นี้และจะจำหน่ายพันธบัตรวงเงิน 17,000 ล้านดอลลาร์ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
สื่อต่างประเทศรายงานว่า การประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกของกระทรวงการคลังสหรัฐฯนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980
ขณะเดียวกัน กระทรวงจะทำการประมูลพันธบัตรอายุ 3 ปี วงเงิน 42,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ และพันธบัตรอายุ 10 ปี วงเงิน 32,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งพันธบัตรอายุ 30 ปี วงเงิน 22,000 ล้านดอลลาร์
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กระทรวงการคลังเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทางกระทรวงจะออกพันธบัตรในวงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้
หนักกว่านี้ยังจะมีมา จับตาตัวเลขว่างงานศุกร์นี้
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (8 พ.ค.) จะเป็นหนึ่งในตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา โดยเขาระบุว่า อัตราการว่างงานอาจจะพุ่งสูงกว่า 20%
นอกจากนี้ ยังกล่าวเสริมว่า ผลกระทบส่วนใหญ่จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะปรากฎในไตรมาส 2 หลังจากนั้นคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาส 3 ขณะที่อัตราการว่างงานจะกลับสู่ตัวเลขหลักเดียวในไตรมาส 4 ท่ามกลางเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 21.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 16%
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 701,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 10,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2560 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% หลังจากแตะระดับ 3.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
การลดลงของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดคนงานจำนวนมาก