โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด

06 พ.ค. 2563 | 10:48 น.

โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด สหรัฐรักษาแชมป์ยอดสูงสุด

นพ.ทวีศิลป์  วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ได้แถลงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019  (COVID-19 )  ทั่วโลก  ประจำวันที่ 6  พฤษภาคม  2563 ( ช่วงเวลา 10.00 น.)  มีผู้ติดเชื้อจำนวน 3,727,295 ราย เพิ่มขึ้น 81,756 ราย เสียชีวิต 258,326 ราย เพิ่มขึ้น 5,930 ราย  อาการรุนแรง 49,248 ราย  รักษาหายแล้ว 1,241,331 ราย

โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด

ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
1. สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ 1,237,633 ราย เพิ่มขึ้น 24,798  ราย เสียชีวิต 72,271 ราย  เพิ่มขึ้น 2,350 ราย 
2. สเปน มีผู้ติดเชื้อ 250,561  ราย  เพิ่มขึ้น 2,260 ราย เสียชีวิต 25,613 ราย  เพิ่มขึ้น 185ราย 
3. อิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 213,013 ราย  เพิ่มขึ้น 1,075 ราย เสียชีวิต 29,315 เพิ่มขึ้น 236ราย 
4.อังกฤษ มีผู้ติดเชื้อ 194,990  รายเพิ่มขึ้น 4,406 ราย เสียชีวิต 29,427 ราย เพิ่มขึ้น 693 ราย
5.ฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อ 170,551 ราย เพิ่มขึ้น1,089 ราย เสียชีวิต 25,531 ราย เพิ่มขึ้น 330 ราย 

6. เยอรมนี มีผู้ติดเชื้อ 167,007 ราย เพิ่มขึ้น 855 ราย เสียชีวิต 6,993 ราย 
7. รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 155,370 ราย เพิ่มขึ้น 10,102 ราย เสียชีวิต 1,451 ราย เพิ่มขึ้น 95 ราย 
8.ตุรกี มีผู้ติดเชื้อ 129,491 ราย เพิ่มขึ้น 1,832 ราย เสียชีวิต 3,520 รายเพิ่มขึ้น 59 ราย
9.บราซิล มีผู้ติดเชื้อ 115,953 ราย เพิ่มขึ้น 7,333 ราย เสียชีวิต 7,958ราย เพิ่มขึ้น 591 ราย
10.อิหร่าน มีผู้ติดเชื้อ 99,970 ราย เพิ่มขึ้น 1,323 ราย เสียชีวิต 6,340 ราย เพิ่มขึ้น 63 ราย 

โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด
 

สถานการณ์ในอาเซียนและเอเชีย
 อินเดีย        มีผู้ติดเชื้อ 49,400 ราย เพิ่มขึ้น 2,963 ราย เสียชีวิต 1,693 ราย เพิ่มขึ้น127 ราย
ปากีสถาน   มีผู้ติดเชื้อ 22,049 ราย เพิ่มขึ้น1,108 ราย เสียชีวิต 514 ราย เพิ่มขึ้น38 ราย
สิงคโปร์      มีผู้ติดเชื้อ 19,410  ราย เพิ่มขึ้น 632 ราย เสียชีวิต15 ราย 
ญี่ปุ่น            มีผู้ติดเชื้อ  15,253 ราย เพิ่มขึ้น175 ราย เสียชีวิต 556  ราย เพิ่มขึ้น20 ราย

โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด

อินโดนีเซีย  มีผู้ติดเชื้อ  12,071 ราย เพิ่มขึ้น 484 ราย เสียชีวิต 872 ราย เพิ่มขึ้น 8ราย
เกาหลีใต้   มีผู้ติดเชื้อ  10,806 ราย เพิ่มขึ้น 2 ราย เสียชีวิต 255 ราย เพิ่มขึ้น 1 ราย
ฟิลิปปินส์  มีผู้ติดเชื้อ 9,684  ราย เพิ่มขึ้น 199 ราย เสียชีวิต 637 ราย เพิ่มขึ้น 14ราย
มาเลเซีย  มีผู้ติดเชื้อ 6,383 ราย เพิ่มขึ้น 30 ราย เสียชีวิต106 ราย เพิ่มขึ้น 1 ราย

สิ่งที่น่าสนใจคือประเทศอินเดียที่ยังคงมีตัวเลขสูงขึ้น  ทำให้ที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 70% เพียงวันเดียวหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ขั้นแรก ประชาชนแห่แหนกันเข้าไปซื้อสินค้าประเภทนี้   จนเกิดความวุ่นวาย  นอกจากนี้ได้ออกประกาศเตือนด้วยว่า หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการฝ่าฝืนอีก และธุรกิจอื่นใดที่อยู่ในกลุ่มได้รับการผ่อนผันก่อน แต่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม จะสั่งยกเลิกการผ่อนปรนนั้นทันที

โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด

สำหรับเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทยในวันนี้(6พ.ค.)  จากเมียนมา 59  คนเป็นกลุ่มคนไทยตกค้าง   จากเยอรมนี (แฟรงก์เฟิร์ต) 110 คน เป็นคนไทยตกค้าง  จากปากีสถาน (ละฮอร์)  เป็นนักเรียน กลุ่มดาวะห์  122 คน  และผู้ที่จะกลับในวันที่ 7 พ.ค.จากเกาหลีใต้ คนไทยตกค้าง 150 คน   จากแอฟริกาใต้ คนไทยตกค้าง 150คน รวมตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. - 5 พ.ค.  เดินทางกลับแล้ว 4,637 คน จาก 27 ประเทศ/ดินแดน   และเมื่อกลับถึงไทยแล้วจะต้องเข้าสถานกักกันตัวของรัฐ (State Quarantine ) ทุกคน

นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบินนำคนไทยตกค้างกลับไทย คือวันที่ 7 พ.ค. มี 2 เที่ยวบิน  คือ แอฟริกาใต้ (โจฮันเนสเบิร์ก) และเกาหลีใต้    วันที่ 8 พ.ค. มี 2 เที่ยวบิน คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อาบูดาบี)   อียิปต์(ไคโร)   วันที่9 พ.ค.มี4 เที่ยวบิน จากญี่ปุ่น(โตเกียว2เที่ยวบิน)  เนเธอร์แลนด์(อัมสเตอร์ดัม) และเวียตนาม(ฮานอย)   วันที่ 10 พ.ค. 3 เที่ยวบิน จากไต้หวัน  สหรัฐอเมริกา  ญี่ปุ่น(โตเกียว)  และวันที่11 พ.ค. มี4เที่ยวบิน จาก อินเดีย (นิวเดลี) ญี่ปุ่น(โตเกียว) ฮ่องกง  และเกาหลีใต้(โซล)  โดยในช่วงวันที่7-31  พ.ค. มีแผนนำคนไทยเดินทางกลับอีกประมาณ7,000คน

โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด

การนำคนไทยกลับนั้นจะต้องมีการพิจารณาถึงสถานที่กักกันตัว(State Q) เช่นกัน  ต้องมีพื้นที่ว่างและมีความเหมาะสมสอดคล้องกับจำนวนผู้ที่เดินทางเข้ามา  ซึ่งส่วนใหญ่มีการลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า   ส่วนผู้ที่ยังคงทำงานอยู่ในบางประเทศและยังคงอยู่ได้นั้น  โดยได้รับการดูแลจากสถานทูตและสถานกงสุลและภาคเอกชน รวมถึงคนไทยด้วยกัน อย่างที่ประเทศมาเลเซีย  คนไทยที่ได้รับความช่วยเหลือแล้ว 29,491 คน  ซึ่งหากไม่มีความจำเป็นจึงอยากจะขอให้อยู่ในประเทศนั้นก่อนเพราะอาจจะเป็นการแพร่เซื้อและนำโรคกลับมาด้วย

ทั้งนี้จากข้อมูลสถานการณ์ผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักตัวในที่กักกันของรัฐ ตั้งแต่วันที่ 3เม.ย.-5 พ.ค. มียอดคัดกรองสะสม 12,847 ราย เพิ่มขึ้น 466ราย กลับบ้านได้ สะสมที่3,921 รายเพิ่มขึ้น619 ราย และพบเชื้อสะสมที่ 85 รายเพิ่มขึ้น 1ราย

โควิดยังป่วนโลกผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตทะยานไม่หยุด