ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 133.33 จุด หรือ+0.56% ยืนที่ 23,883.09 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับเพิ่ม 98.41 จุด หรือ +1.13% ปิดที่ 8,809.12 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปรับเพิ่มขึ้น 25.70 จุด หรือ+0.90% ปิดที่ 2,868.44 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 อันเนื่องมาจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้เริ่มปรับลดการผลิตเพื่อรับมือกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังดีดตัวขึ้นขานรับข่าวการคลายมาตรการล็อกดาวน์ของหลายรัฐในสหรัฐ โดยนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจะเป็นการเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศว่า รัฐแคลิฟอร์เนียจะอนุญาตให้ธุรกิจค้าปลีกบางส่วนกลับมาเปิดบริการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ และนายเจย์ อินสลีย์ ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันทีได้ประกาศแผน Safe Start ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐวอชิงตันสามารถทยอยเปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง โดยเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในคนในสหรัฐแล้ว และทางบริษัทคาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนหลายล้านโดสภายในปลายปีนี้
หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์พุ่งขึ้นขานรับข่าวนี้โดยหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 2.37% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บวก 0.83% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 3.57% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค เพิ่มขึ้น 1.5%