GULF ราคา 40 บาท จุดวัดใจ

05 พ.ค. 2563 | 12:30 น.

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3572 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ค.63 By…เจ๊เมาธ์

 

          พอมีวันหยุดติดต่อกันนานๆ เกมหุ้นมันก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามกันด้วยนะคะ ยิ่งตอนนี้นอกจากจะมีเรื่องของโรคโควิด-19, เรื่องของวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันดิบ แล้วล่าสุดก็ยังมีเรื่องที่ “ป๋าทรัมป์” แกขู่ว่าอาจจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่ เพราะป๋าแกบอกว่ามีหลักฐานชี้ชัดว่าเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นเชื้อโรคที่หลุดออกมาจากห้องแลปของเมืองอู่ฮั่นของจีนสิค่ะ เฮ้อ...ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก แล้วยังมาโดนแทรกแซงด้วยเรื่องแมวๆ หมาๆ แบบนี้ด้วยก็บรรลัยสิค่ะ เอาเป็นว่าแฟนๆ ของเจ๊ก็ต้องตั้งรับเอาไว้ให้ดีๆ นะคะ ไม่ต้องรีบ...แต่ต้องใจเย็นๆ ค่ะ

          ไปที่ KCE DELTA HANA หุ้นอิเลคทรอนิกส์กลุ่มนี้อุตส่าห์เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาหลังจากที่ภาวะแรงกดดันจากโควิดเริ่มคลี่คลาย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ที่ “ป๋าทรัมป์” กำลังจะจัดให้จะทำให้ซวยรอบใหม่อีกแล้วค่ะ เรื่องของเรื่องก็คือจีนเป็นผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่แล้วยังเป็นหนึ่งในระบบห่วงโซ่อุปทานของไทย ถ้าหากว่าเรื่องที่ “ป๋าทรัมป์” แกกำลังขู่เป็นแค่การแก้เกี้ยวทางการเมืองก็คงไม่มีอะไร...แต่บอกตรงๆ ว่าลูกบ้าของคาวบอยเฒ่ารายนี้เอาทางไม่ได้นะคะ ถ้าหากว่าป๋าแกบ้าขึ้นมาก็ตัวใครตัวมันหละค่า

          มาที่หุ้นลีสซิ่งตัวแรงอย่าง MTC แบบเดี่ยวๆ กันสักทีนะคะ นับตั้งแต่ DSI เข้าไปตรวจสาขาที่ราชบุรีกับสาขาชลบุรี ก็ทำให้ราคาหุ้นร่วงลงไปอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในรอบปีที่ 29.50 บาท ขณะเดียวกันราคานี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หุ้นของ MTC ถูกไล่ราคาขึ้นมาในรอบใหม่ แต่ถ้าหากมีใครที่ตามราคาหุ้นของ MTC มานาน ก็จะรู้ว่าทุกครั้งที่มีการแจ้งผลการดำเนินงานออกมา ไม่ว่าจะมีกำไรหรือขาดทุน หุ้นตัวนี้จะถูกขายออกมาประมาณว่าจะเกิดอาการ Sell On Fact ทุกๆ ครั้งด้วยค่ะ แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นของ MTC ถึงจะค่อยๆ ปรับฐานราคากลับฟื้นคืนมา ที่เจ๊เมาธ์ออกมาเตือนก็เพราะสัปดาห์นี้ MTC จะแจ้งผลการดำเนินงาน 1/63 ออกมา ก็เอาเป็นว่าไม่ต้องตกใจนะคะ...หุ้นตัวนี้ ก็มีนิสัยแบบนี้เองหละค่า

 

          ไปที่การบินไทย (THAI) กันอีกครั้ง หลังจากที่แผนผ่าตัดรอบใหม่ถูกดันออกมาเริ่มตั้งแต่กระทรวงการคลังจะค้ำประกันเงินกู้ 5.4 หมื่นล้าน เพื่อใช้หนี้และเสริมสภาพคล่องในการบริหารงานของการบินไทย ในระยะที่ 2 ไปที่การบินไทย (THAI) จะต้องมีการเพิ่มทุนจำนวน 8 หมื่นล้าน โดยที่ทางกระทรวงการคลังจะลดสัดสวนการถือหุ้นลงจาก 51% ลงเป็น 49% โดย 2% ที่หายไปจะขายให้กับกองทุนวายุภักษ์ หลังจากนั้นก็จะผ่าแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ส่วนของสายการบินที่จะให้ไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่การบินไทยถือหุ้นอยู่แล้ว 100% ก็จะถูกเพิ่มบทบาทมากขึ้นรองรับธุรกิจของการบินไทยทั้งหมด ครัวการบิน, บริการภาคพื้น, คลังสินค้า และฝ่ายการซ่อมบำรุงอากาศยานหรือฝ่ายช่าง ซึ่งธุรกิจทั้ง 4 ส่วนหลังจะถูกตั้งเป็นบริษัทใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและคล่องตัวในการบริหารงาน

          แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนออกมาจากในองค์กรของการบินไทย (THAI) ว่าไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องแยกส่วนธุรกิจออกจากเดิมที่เคยเป็น เห็นบอกว่า แค่เพียงว่าให้ลดตำแหน่งผู้บริหาร ขายเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานออกไปก็พอว่างั้น เฮ้อ...ถ้าในมุมมองของเจ๊ เจ๊ก็ยังมองว่าขนาดจะผ่าตัดใหญ่ก็ยังไม่รู้ว่าการบินไทย (THAI) จะไปรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้!!! แล้วถ้าแผนผ่าตัดเพื่อที่จะช่วยชีวิตในครั้งนี้ ยังต้องมาติดขัด เพราะกลุ่มหัวอนุรักษ์นิยมเดิมๆ แบบนี้ การบินไทยก็คงยังเป็นแค่แดนสนธยา เป็นที่ทำมาหากินของคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่น่าจะมีค่าพอที่กระทรวงการคลังจะต้องเอาภาษีของคนไทยไปช่วยถือหุ้น น่าจะขายๆ ทิ้งไปให้เอกชนเข้ามาถือหุ้นให้หมดซะ ก็น่าจะดีกว่าที่จะต้องมาวุ้นวายกับคนพวกนี้ก็น่าจะดีนะเจ้าค่ะ

          แถมท้ายด้วยเรื่อง GULF ของ “เสี่ยกลาง” สารัชถ์ รัตนาวะดี บอกตรงๆ ว่าเจ๊เห็นราคาหุ้นวิ่งวนอยู่แถวๆ 39 บาทแบบนี้นานๆ แล้วเจ๊รู้สึกรำคาญแล้วค่า ใครๆ เขาก็รู้กันแล้วว่าราคาหุ้น 40 บาท นี่มันคือจุดวัดใจนะคะ...เอาเป็นว่าถ้ามีใครพอที่จะรู้จัก “เจ้ามือ” ที่ดูแลราคาหุ้นของ GULF ก็ช่วยไปบอกให้ทีว่าจะ “ยกขึ้น” หรือว่าจะ “ตบลง” ก็ให้ทำกันสักที หรือว่าถ้าหากทาง “เสี่ยกลาง” จะใจดีไปบอกให้เองก็ได้นะคะ...เผื่อว่า “เจ้ามือ” กับ “เจ้าของ” จะได้คุยกันง่ายๆ บางทีการคุยกันแบบไม่ต้องผ่านตัวแทน...มันก็ง่ายดีกว่ามั๊ยค่ะ “เสี่ยกลาง” เจ้าขาา