ทรัมป์ลั่น มั่นใจได้วัคซีนโควิดสิ้นปี

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ระบุว่า เขามั่นใจว่าสหรัฐฯจะสามารถผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ออกมาได้ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นแย้งว่า การพัฒนาวัคซีนที่จะพิชิตไวรัสดังกล่าวน่าจะใช้เวลาอีก 12 ถึง 18 เดือน

ผู้นำสหรัฐฯให้สัมภาษณ์ในรายการของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ (3 พ.ค. เวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) ว่า ขณะนี้มีมากกว่า 70 บริษัททั่วโลก ซึ่งรวมทั้งบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ของสหรัฐฯ ที่กำลังพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” บริษัทเหล่านี้ต่างเข้าใกล้เป้าหมาย คือใกล้จะได้วัคซีนออกมาสำหรับใช้กับสาธารณชนทั่วไปแล้ว

“เรามั่นใจว่าน่าจะได้วัคซีนภายในสิ้นปีนี้ เรากำลังพยายามกันอย่างหนักมาก ๆ”

แม้ว่าการพัฒนาวัคซีนของหลากหลายบริษัทจะมีความรุดหน้าในอัตราเร่งเร็วขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขก็ออกมาประมาณการว่า การพัฒนาวัคซีนออกมาใช้กับสาธารณชนคงจะต้องใช้เวลาอีก 12-18 เดือน ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ (National Institute of Allergy and Infectious Diseases) ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของทำเนียบขาว เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า กระบวนการในการพัฒนาวัคซีนนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่ง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า เขารู้ดีว่าเป้าหมายของเขาดูจะเป็นการตั้งความหวังไว้สูงไป “พวกหมอทั้งหลายคงจะพูดว่า ผมไม่ควรจะพูดอย่างนั้น แต่ผมจะพูดในสิ่งที่ผมคิด”

ทั้งนี้ นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งออกมาแสดงวามเห็นว่า การเร่งรัดให้มีการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ออกมาเร็วเกินไปเป็นเรื่องเสี่ยง ข้อมูลจากกลุ่มแนวร่วมนวัตกรรมพร้อมรับมือโรคระบาด ( Coalition for Epidemic Preparedness Innovations) ชี้ว่า ขณะนี้มีการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ประมาณ 115 รายเป็นอย่างน้อย ในอดีตที่ผ่านมา วัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่น ๆ เช่นไวรัสโรคเมอร์ส (MERS) และโรคซาร์ส (SARS) ต้องใช้เวลาในการพัฒนามากกว่า 18 เดือน และตอนนี้ก็ยังต้องผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการเพื่อใช้กับประชาชนทั่วไป โดยวัคซีนโรคซาร์สนั้นต้องใช้เวลาพัฒนาถึง 20 เดือนเฉพาะสำหรับการทดลองกับมนุษย์ เท่าที่ผ่านมา การพัฒนาวัคซีนที่ทำได้รวดเร็วที่สุด คือวัคซีนป้องกันโรคคางทูม ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี

คริส วิตตี้ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลอังกฤษให้ความเห็นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า โอกาสที่จะมีการพัฒนาวัคซีนหรือการรักษาโควิด-19 สำเร็จภายในปีนี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก ขณะที่บริษัท โรช ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ประเมินว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไม่น่าจะมีออกมาได้ก่อนสิ้นปี 2564

แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือความเห็นของนายแพทย์ปีเตอร์ โฮเทซ อธิบการบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เบย์เลอร์ (Baylor College of Medicine) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อเดือนมีนาคม ระบุว่า ยังมีความเสี่ยงอยู่ว่า แทนที่จะช่วยป้องกัน วัคซีนต้านไวรัสโคโรนาอาจจะทำให้ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 อยู่แล้วมีอาการย่ำแย่ลง

บิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตผู้บริหารบริษัทไมโครซอฟต์ โพสต์ข้อความในบล็อกส่วนตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ในบรรดาผู้พัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 นั้น 8 ใน 10 รายดูจะมีความเป็นไปได้มาก แต่การพัฒนาวัคซีนออกมาสำหรับประชาชนทั่วไปอาจจะต้องใช้เวลาถึง 18 เดือน แม้ว่าเอาเข้าจริง ๆ แล้วเมื่อมีผู้พัฒนาแต่ละรายกำลังลงมือทดลองพร้อม ๆ กันด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป เวลาที่ใช้อาจจะเร็วเพียง 9 เดือนหรืออาจจะยาวนานถึง 2 ปี ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น