สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทางการสิงคโปร์จะเริ่มเปิดให้ธุรกิจบางส่วนกลับมาดำเนินงานตามปกติได้ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.นี้ หลังจากที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่า รัฐบาลจะผ่อนปรนข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังและอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดเพิ่มขึ้น โดยกิจกรรมบางอย่าง อาทิ ธุรกิจที่ทำในบ้าน, การผลิตอาหาร, ร้านขายปลีกอาหารบางแห่ง, บริการซักรีด, ร้านตัดผม และร้านขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง จะสามารถเปิดดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.นี้ ขณะที่นักเรียนจะได้รับอนุญาตให้กลับไปเรียนในโรงเรียนได้ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การเปิดเศรษฐกิจและสถานที่ทำงานจะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะยังคงใช้กฎเกณฑ์ด้านสุขภาพที่เข้มงวด รวมถึงการใช้แอพพลิเคชั่นดิจิทัลบนโทรศัพท์มือถือเพื่อติดตามตัวผู้ติดเชื้อ
ส่วนมาตรการล็อกดาวน์อื่นๆ จะยังคงบังคับใช้ต่อไปจนถึงกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งรวมถึงการกักกันแรงงานต่างชาติมากกว่า 300,000 คนในหอพักคนงาน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ สิงคโปร์รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 932 รายเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 17,101 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อราว 85% เป็นแรงงานต่างชาติที่อาศัยอยู่ในหอพักคนงานที่แออัด
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ติดเชื้อในชุมชนของสิงคโปร์ได้ลดน้อยลงแล้ว โดยการติดเชื้อรายวันลดลงโดยเฉลี่ยมากกว่าครึ่งหนึ่งเหลือ 12 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การติดเชื้อที่ไม่ทราบแหล่งที่มา ได้ลดลงเหลือเฉลี่ย 6 รายต่อวัน