หวั่นคู่ค้าหนี หลังราคาข้าวทิ้งห่างเพื่อนบ้าน

02 พ.ค. 2563 | 09:20 น.

โชว์ตัวเลข 3 เดือน ไทยส่งออกเดี้ยงลดทั้งปริมาณและราคา สมาคมส่งออกฯ ผวาคู่ค้าเผ่นหนี หลังไทยปรับราคาเพิ่มขึ้น เพราะกระทบแล้ง ราคาข้าวในประเทศขยับสูงลิ่ว

หวั่นคู่ค้าหนี หลังราคาข้าวทิ้งห่างเพื่อนบ้าน

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าว รายงานการส่งออกข้าวในในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-มีนาคม) จากข้อมูลของกรมศุลกากร พบว่าการส่งออกข้าว มีปริมาณ 1,467,754 ตัน มูลค่า 28,496 ล้านบาท (938 ล้านดอลลาสหรัฐฯ) โดยปริมาณส่งออกลดลง 39.1% และมูลค่าลดลง 28.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีการส่งออกปริมาณ 2,409,191 ตัน มูลค่า 39,608 ล้านบาท (1,251 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

หวั่นคู่ค้าหนี หลังราคาข้าวทิ้งห่างเพื่อนบ้าน

การส่งออกข้าวในเดือนมีนาคม 2563 มีปริมาณ 520,449 ตัน มูลค่า 10,961 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 30.1% และ 33.4% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เนื่องจากการส่งออกข้าวขาวและข้าวหอมมะลิมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากประเทศในแถบแอฟริกามีการนำเข้าข้าวขาวมากขึ้น ขณะที่ตลาดอเมริกานำเข้าข้าวหอมมะลิมากขึ้น โดยในเดือนมีนาคมมีการส่งออกข้าวขาวปริมาณ 230,686 ตัน เพิ่มขึ้น 47.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศแองโกล่า โมซัมบิก แคเมอรูน จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น

หวั่นคู่ค้าหนี หลังราคาข้าวทิ้งห่างเพื่อนบ้าน

ขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 132,444 ตัน เพิ่มขึ้น 29.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากตลาดหลักในแถบอเมริกา เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา เร่งนำเข้าข้าวเนื่องจากผู้บริโภคมีการซื้อข้าวเพื่อกักตุนในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ขณะที่ตลาดสำคัญในเอเชีย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ก็ยังคงนำเข้าอย่างต่อเนื่อง

หวั่นคู่ค้าหนี หลังราคาข้าวทิ้งห่างเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตามในส่วนของข้าวนึ่งมีการส่งออกเพียง 81,079 ตัน ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปตลาดในแถบแอฟริกา เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน โตโก เป็นต้น ขณะที่การส่งไปยังตลาดหลัก เช่น เบนิน และไนจีเรีย มีปริมาณเพียงเล็กน้อย

หวั่นคู่ค้าหนี หลังราคาข้าวทิ้งห่างเพื่อนบ้าน

สมาคมฯคาดว่าในเดือนเมษายน 2563 ปริมาณส่งออกข้าวจะอยู่ที่ประมาณ 550,000-600,000 ตัน เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามใช้มาตรการจำกัดการส่งออกข้าวช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีข้าวพียงพอสำหรับบริโภคในประเทศ ซึ่งในขณะนี้ได้กลับมาส่งออกตามปกติแล้ว ขณะที่อินเดียและปากีสถานใช้มาตรการปิดประเทศ (Lockdown) และจำกัดการเดินทางติดต่อกันทำให้การส่งออกชะลอตัวลงเนื่องจากอุปสรรคด้านลอจิสติกส์ จึงทำให้ผู้ซื้อข้าวบางส่วนหันมาซื้อข้าวจากไทยและเร่งการส่งมอบเร็วขึ้น

หวั่นคู่ค้าหนี หลังราคาข้าวทิ้งห่างเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศคู่แข่งจะประสบปัญหาด้านการส่งออกในช่วงนี้ แต่การส่งออกข้าวของไทยอาจจะไม่ดีขึ้นมากนัก เนื่องจากอุปทานข้าวของไทยมีปริมาณจำกัดเพราะผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งส่งผลให้มีปริมาณผลผลิตข้าวลดลง โดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้า ประกอบกับตลาดภายในประเทศก็มีความต้องการข้าวอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นและห่างจากประเทศคู่แข่งประมาณ 90-180 เหรียญสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 สมาคมฯประกาศราคาข้าวขาว 5% ที่ 556 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่เว็บไซต์ Oryza.com รายงานราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถานที่ 463-467, 368-372 และ 453-457 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ตามลำดับ