PTTEP หั่นเป้ายอดขาย-ลงทุน หลังกำไรQ1 ลดลง 31%

30 เม.ย. 2563 | 08:15 น.

PTTEP หั่นเป้ายอดขายปี 63 ลง 7% และงบลงทุนลง 15-20% จากที่ตั้งไว้ 1.43 แสนลบ. หลังไตรมาสแรกทำกำไรได้ 8.6 พันลบ. ลดลง 31% YoY

 

นายพงศธร  ทวีสิน  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำ ประกอบกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  (COVID-19) ซึ่งส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานในประเทศลดลงเป็นอย่างมาก ปตท.สผ. จึงได้ปรับลดการคาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมในปี 2563 เป็น 362,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ลดลงประมาณ 7จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 391,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน รวมถึงปรับลดรายจ่ายการลงทุนของปี 2563 ประมาณ 15-20จากเดิมที่ตั้งไว้ 4,613 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) (เทียบเท่า 143,012 ล้านบาท) 

PTTEP หั่นเป้ายอดขาย-ลงทุน หลังกำไรQ1 ลดลง 31%

ทั้งนี้  ได้พิจารณาตัดค่าใช้จ่ายบางส่วนและเลื่อนแผนการเจาะสำรวจในบางโครงการออกไป แต่จะยังคงรายจ่ายสำหรับรักษาระดับการผลิตตามสัญญาเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ รวมถึงรายจ่ายเพื่อพัฒนาโครงการที่พร้อมผลิตใน 3-4 ปีข้างหน้า อาทิ โครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 และการเจาะหลุมสำรวจเพิ่มเติมในแหล่งก๊าซ ลัง เลอบาห์ ในแปลงเอสเค 410บี ประเทศมาเลเซีย

การดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตฯ ภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ท้าทาย ความสำเร็จในการปรับลดต้นทุนในอดีตเมื่อครั้งบริษัทเผชิญวิกฤตราคาน้ำมันตกต่ำในช่วง 4-5 ปีที่แล้ว ทำให้ต้นทุนปัจจุบันของบริษัทอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบเคียงกับกลุ่มธุรกิจเดียวกัน อย่างไรก็ตามวิกฤตครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของราคาน้ำมัน แต่เป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง การมุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของบริษัทคงไม่ใช่แค่เพียงการปรับลดต้นทุน แต่จะต้องมุ่งเน้นการปฏิรูประบบและพฤติกรรมการทำงานขององค์กร เพื่อให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว และสามารถปรับเปลี่ยนให้ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสะท้อนต่อโครงสร้างต้นทุนของบริษัทในอนาคตที่จะมีความยืดหยุ่น ให้รองรับได้ทุกสถานการณ์

PTTEP หั่นเป้ายอดขาย-ลงทุน หลังกำไรQ1 ลดลง 31%

สำหรับ ปตท.สผ. มีผลิตภัณฑ์หลัก 70เป็นก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มีการกำหนดปริมาณรับซื้อขั้นต่ำไว้แล้ว และกำหนดราคาขายในหลายโครงการกับคู่สัญญาไว้แล้ว โดยโครงสร้างราคาขายก๊าซธรรมชาติของ ปตท.สผ.ผูกกับราคาน้ำมันส่วนหนึ่งและย้อนหลังประมาณ 6-24 เดือน ส่วนของน้ำมันดิบซึ่งมีปริมาณการขายประมาณ 30ของปริมาณการขายทั้งหมด อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งบริษัทได้มีการทำสัญญาประกันความเสี่ยงด้านราคาในปีนี้ไว้แล้วบางส่วน

นายพงศธร กล่าวต่อไปอีกว่า ไตรมาส 1 ปี 63 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 1,771 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 55,335ล้านบาท) ลดลงประมาณ 4% เมื่อเทียบกับ 1,841 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 55,707 ล้านบาท) ในไตรมาส 4 ปี 62 โดยหลักมาจากปริมาณการขายเฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 363,411 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเทียบกับ 395,028 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการเรียกรับก๊าซธรรมชาติจากโครงการในอ่าวไทยจากผู้ซื้อที่ลดลง 

นอกจากนี้ ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยในไตรมาสนี้ ลดลงมาอยู่ที่ 44.81 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเทียบกับ 48.28 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในไตรมาสก่อน ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างไรก็ดี ในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไรจากอนุพันธ์ทางการเงิน 222 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่บริษัทได้เข้าทำสัญญาล่วงหน้า ในขณะที่ สามารถรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วยได้ที่ระดับ 31 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ทั้งนี้ บริษัทมีรายจ่ายทางภาษีเงินได้จากผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 225 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

PTTEP หั่นเป้ายอดขาย-ลงทุน หลังกำไรQ1 ลดลง 31%

จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ผลประกอบการของ ปตท.สผ. ในไตรมาสที่ 1 นี้ มีกำไรสุทธิ  8,612 ล้านบาท ลดลง 30.9% เมื่อเทียบกับ 12,479 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 981 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 38,093 ล้านบาท) และมีระดับอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ที่ 72%